รีวิวดูดไขมัน แก้ปัญหาหุ่นตรงไม่มีเอวอย่างตรงจุด

คนผอมไม่ได้แปลว่าจะไม่มีไขมันส่วนเกินอยู่เลย มันอาจจะโดนอำพรางหรือหลบซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อผ้าก็ได้ มีสาว ๆ ตัวเล็ก หุ่นตรงไม่มีเอวหลายคน ที่เข้ามาดูดไขมันกับหมอที่ Amara Clinic ซึ่งส่วนใหญ่โครงร่างเล็กมาก ดูเผิน ๆ คือผอมเพรียวเลยนะครับ ตอนแรกหมอก็งงว่าคนไข้กังวลในส่วนไหนเพราะรูปร่างค่อนข้างดีอยู่แล้ว แต่พอเปิดสัดส่วนให้หมอประเมินเท่านั้นแหละ มีส่วนเกินกันทุกคน โดยเฉพาะไขมันตรงหน้าท้องล่างและรอบเอว บางคนก็ไขมันเยอะ บางคนก็ไขมันน้อย หรือบางคนมีปัญหาเรื่องผิวย้วยเป็นต้น

สำหรับเคสดูดไขมันที่หมอจะมาเล่าข้อมูลการรักษาให้ดูกัน เจ้าของเคสคือคุณเคลียร์ สาวตัวเล็กแต่ไขมันไม่น้อย หุ่นตรงไม่มีเอว เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรี (หนึ่งในเคสดูดไขมันชลบุรี) เพราะต้องการให้หมอช่วยประเมินและปรับรูปร่างให้ เนื่องจากช่วงหลังมานี้ คุณเคลียร์รู้สึกว่าตัวเองอ้วนง่าย กินอะไรนิดหน่อยน้ำหนักก็ขึ้น ไขมันก็พุ่งแล้ว ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจที่จะแต่งตัวสวย ๆ เหมือนเมื่อก่อน ซึ่งในเคสนี้มีปัญหาของไขมันส่วนเกินในระดับปานกลาง ใครที่เป็นสาวตัวเล็กหุ่นตรง อยากมีเอวเอสและหุ่นเฟิร์ม ๆ ต้องไม่พลาดเลยครับ

ก่อนที่หมอจะไปเล่ารายละเอียดและประสบการณ์การดูดไขมันของคุณเคลียร์ หมอขออธิบายก่อนนะครับว่าการดูดไขมันหน้าท้อง และการดูดไขมันเอวเอสนั้น มีความแตกต่างกันอย่างไร? เพราะบางคนอาจจะเคยคิดว่าหน้าท้องกับเอวคือตำแหน่งเดียวกัน จริง ๆ แล้ว การนับตำแหน่งในการดูดไขมันของแต่ละคลินิกจะไม่เหมือนกัน สำหรับที่ Amara Clinic เราเน้นการปรับสัดส่วนใช่ไหมครับ ดังนั้น ตำแหน่งที่เรากำหนดมาจะเป็นตำแหน่งที่ควบบริเวณที่ควรเก็บไขมันไปพร้อมกันเลย ซึ่งการดูดไขมันหน้าท้อง จะเก็บทั้งหน้าท้องบนและล่างไปเลย = 1 ตำแหน่ง และดูดไขมันเอวเอส จะเก็บเอวรอบด้านทั้ง 360 องศาเลย รวมไปถึงบริเวณปีกหลังด้วย = 1 ตำแหน่งนั่นเอง

การดูดไขมันหน้าท้อง

กำจัดไขมันที่อยู่หน้าท้องส่วนบนและส่วนล่าง (พุงหมาน้อย) ทำให้ความป่องนูนหรือความยื่นของหน้าท้องยุบลง จากหน้าท้องใหญ่ ๆ ก็จะแบนราบลงกว่าเดิม ส่งผลให้ลำตัวดูเพรียว แต่จะไม่ได้ช่วยทำให้รูปร่างดูมีส่วนเว้าส่วนโค้งมากขึ้น

การดูดไขมันเอวเอส 

ช่วยทำให้ห่วงยางรอบเอวหายไป ทำให้ส่วนเกินที่อยู่ด้านข้างลดลง ช่วยให้คนที่มีหุ่นตรงไม่มีเอว หรือคนที่มีห่วงยางข้างเอว กลายเป็นคนที่มี S Curve และมีส่วนเว้าส่วนโค้งสวย ๆ ได้ ส่วนการดูดไขมันปีกหลังจะอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณเอวด้านหลัง หากคนไข้มีทั้งไขมันตรงเอวและปีกหลัง แต่ดูดไขมันเอวเอสออกอย่างเดียว อาจทำให้ด้านหลังดูไม่สวยไม่เป็นธรรมชาติได้ เพราะตรงปีกหลังมีก้อนไขมันอยู่ หมอเลยรวมสองบริเวณนี้เข้ากันเป็น 1 ตำแหน่งนั่นเอง

อยากมี Sexy Line ต้องดูดไขมันตรงไหน? 

ตามธรรมชาติของคนที่มีหุ่นลีน ๆ มี Sexy Line สวย ๆ คือคนที่บริเวณหน้าท้องแทบจะไม่มีไขมันอยู่เลย ผิวหนังมีความแนบชิดกับกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นที่สุด จึงทำให้เห็นร่องกล้ามเนื้อได้อย่างชัดเจน สำหรับคนที่อยากมี Sexy Line ด้วย ควรดูดไขมันหน้าท้องเพื่อเคลียร์ส่วนเกินออกก่อน หากไม่เคลียร์ไขมันออกก่อนจะทำให้หน้าท้องดูไม่เป็นธรรมชาติได้ นอกจากนี้ เพื่อความ Perfect คนไข้ก็ควรที่จะดูดไขมันเอวเอสออกไปด้วยเลย เพื่อให้รูปร่างโดยรวมออกมาดูสวยเป็นธรรมชาติ และสมส่วนกันมากที่สุด

ตัวอย่างเคสดูดไขมัน Sexy Line

ตัวอย่างเคสดูดไขมันหน้าท้อง

ตัวอย่างเคสดูดไขมันท้อง+เอว

คุณเคลียร์เป็นกังวลในส่วนของหน้าท้องและรอบเอวเป็นหลัก ตอนที่ยืนปกติจะรับรู้ได้ว่ามีหน้าท้องเล็กน้อย เหมือนกับคนตัวเล็กทั่ว ๆ ไปที่มีพุงหมาน้อยนิด ๆ หน่อย ๆ แต่พอนั่งปุ๊ป ดูเหมือนจะไม่ได้มีแค่ปัญหาไขมันส่วนเกินเพียงอย่างเดียว เหมือนว่ามีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยของผิวเล็กน้อยด้วย เอวก็หนาขึ้น จับขึ้นมารู้เลยว่าชั้นไขมันแอบหนาเลยทีเดียวครับ

ปัญหาที่ตามมาจากการมีหน้าท้องที่ใหญ่ขึ้น เรื่องแรกคือไซซ์เสื้อผ้าเปลี่ยนไป จากที่คุณเคลียร์เคยใส่กางเกงและเสื้อไซซ์ XS-S ได้ ตอนนี้ก็ต้องขยับมาเป็นไซซ์ M แทนถึงจะไม่รู้สึกอึดอัด อีกทั้งยังต้องเลือกเฉพาะกางเกงเอวสูงมาใส่ เพื่อให้กางเกงช่วยอำพรางหน้าท้องที่ป่องยื่นออกมา แต่ในเมื่อเรามีหน้าท้องเยอะ กางเกงมันก็ไม่สามารถปิดบังได้ทั้งหมด ถ่ายรูปออกมาก็ดูตัวตัน ดูอวบ ซึ่งคุณเคลียร์ไม่ชอบเลย ด้วยเหตุนี้เองเลยทำให้คุณเคลียร์ตัดสินใจที่จะมาดูดไขมันออกไป แบบครั้งเดียวจบ

คุณเคลียร์มีไขมันไม่เยอะมากเท่าไหร่ เมื่อดูดไขมันหน้าท้องออกมาแล้ว ไม่ได้ทำให้หน้าท้องย้วยมากขึ้นกว่าเดิมนัก ถ้าได้ความร้อนเข้ามาช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจน อาจทำให้ผิวของคุณเคลียร์กระชับเต่งตึงอย่างที่ต้องการได้ (คุณเคลียร์อยากได้หน้าท้องที่แบนราบ ไร้พุง ไม่มีห่วงยาง นั่งแล้วพุงเป็นชั้นน้อยที่สุด ผิวกระชับ มีเอวเอส และหุ่นดูบางให้สมกับที่เป็นสาวตัวเล็ก)

ฉะนั้น หมอเลยเลือกใช้เป็นเครื่องดูดไขมัน Vaser Smooth 2.2 รุ่นใหม่ล่าสุดจากอเมริกา ในการสลายไขมันพร้อมดูดไขมันออกมากำจัดทิ้งไป ซึ่งเครื่องเวเซอร์ตัวนี้ จะใช้พลังงานตั้งต้นเป็นพลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ เมื่อพลังงานคลื่นเสียงถูกส่งผ่านมายังท่อดูดไขมัน ท่อดูดไขมันจะสั่นตัวและค่อย ๆ เกิดความร้อนขึ้น ความร้อนจะช่วยให้หมอสลายไขมันได้ง่ายขึ้น ดูดไขมันได้เร็วขึ้น และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวค่อย ๆ กระชับตัวร่วมด้วย โดยที่คุณเคลียร์ไม่จำเป็นต้องยกกระชับหน้าท้องด้วย J Plasma เลย (J Plasma คือเครื่องยกกระชับผิวสำหรับคนที่ผิวย้วยมาก แต่ไม่อยากตัดหนังหน้าท้อง ไม่ต้องการแผลใหญ่ และคนที่อยากได้หน้าท้องลีน ๆ แน่น ๆ )

คุณเคลียร์เลือกดูดไขมันแบบวางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์วิชาชีพ แบบ 1:1 จึงต้องมีการเตรียมตัวก่อนดูดไขมันล่วงหน้ามากเป็นพิเศษ อาทิ ไม่ดื่มน้ำหรือกินอาหารก่อนผ่าตัด 8 ชั่วโมง, นอนพักผ่อนให้เพียงพอ หรืองดสูบบุหรี่อย่างน้อย 8 ชั่วโมงเป็นต้น เมื่อมาถึงที่คลินิกแล้ว คุณเคลียร์จะได้พูดคุยและรีเช็คความพร้อมของร่างกาย กับคุณหมอวิสัญญีแพทย์ก่อน เมื่อร่างกายพร้อม วิสัญญีแพทย์ก็จะให้ยาสลบ จากนั้นจึงจะเริ่มขั้นตอนการดูดไขมันจริง ๆ ครับ

1. หมอใส่สารน้ำ Tumescent (ยาชา น้ำเกลือ และอะดรีนาลีน) เข้าไปในบริเวณที่จะทำการดูดไขมัน เพื่อขยายชั้นไขมันให้กว้างขึ้น ทำให้เส้นเลือดหดตัวลง ทำให้คนไข้เจ็บน้อยลง และเพื่อให้หมอดูดไขมันได้สะดวกมากขึ้น
2. เปิดเครื่องดูดไขมัน Vaser Smooth 2.2 พร้อมกับตั้งค่าระดับของพลังงานให้เหมาะสมกับเคสของคุณเคลียร์ จากนั้นก็จะค่อย ๆ สลายเซลล์ไขมันและดูดออกมาทิ้งไป โดยจะเริ่มจากการดูดไขมันเอวด้านหลัง และดูดไขมันปีกหลังก่อน จากนั้นก็จะพลิกตัวคุณเคลียร์มาเก็บไขมันเอวด้านหน้า และดูดไขมันหน้าท้องออกไป
3. เมื่อหมอดูดไขมันเสร็จแล้ว หมอจะรีดน้ำ Tumescent ที่ค้างอยู่ใต้ชั้นผิวหนังออกมาให้ได้มากที่สุด (ถ้ามีน้ำค้างอยู่เยอะ จะยิ่งบวมมาก) จากนั้นก็เย็บปิดแผลไว้ 1 เข็ม 
4. ผู้ช่วยแพทย์และพยาบาล สวมชุดกระชับสัดส่วนให้กับคุณเคลียร์ทันที เพื่อทำให้ผิวแนบชิดกับกล้ามเนื้อนานและเยอะที่สุด จากนั้น วิสัญญีแพทย์ก็จะค่อย ๆ ปลุกคุณเคลียร์ให้ตื่น โดยคุณเคลียร์จะถูกนำตัวมานอนพักผ่อนในห้องพักฟื้นต่อ เมื่ออาการดีขึ้นแล้ว สามารถกลับบ้านได้ครับ

นี่ก็เป็นรีวิวดูดไขมันจากเคสคุณเคลียร์ สาวหุ่นตรงไม่มีเอว หลังจากที่อาการบวมหายไปหมดแล้ว ไม่เจ็บแล้ว สัดส่วนได้เข้าที่ดี และผิวกระชับสวยแล้วนะครับ โดยจะเหลืออยู่เพียงรอยแผลเล็ก ๆ เท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้เจ้าหน้าที่ก็ได้มีการนัดหมายให้คุณเคลียร์เข้ามาเลเซอร์อยู่เป็นประจำเลยครับ (เลเซอร์แผลฟรีไม่จำกัดครั้ง ตลอด 1 ปีเต็ม)