การเสริมหน้าอกเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด มีหลากเทคนิค และหลายสถานที่ให้เลือกใช้บริการ ซึ่งการเสริมหน้าอกให้ออกมาสวย ธรรมชาติ ปลอดภัย และมีผลข้างเคียงน้อย ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยทักษะและฝีมือของแพทย์ ประสบการณ์ในการเสริมหน้าอก เทคนิคเสริมหน้าอกที่เหมาะสม และมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่ดี เรามาทำความเข้าใจกันเลยว่าการเสริมหน้าอกคืออะไร? มีข้อดีข้อเสียอย่างไร? ทำนมดีไหม? และการเสริมหน้าอกที่ Amara Clinic จะตอบโจทย์คุณจริงหรือไม่!?
การเสริมหน้าอก (Breast Augmentation) เป็นการเพิ่มขนาดหน้าอกให้ใหญ่ขึ้น โดยการใช้เต้านมเทียมหรือสารเติมเต็มเสริมเข้าไปที่หน้าอก เพื่อแก้ปัญหาหน้าอกเล็ก, หน้าอกหย่อนคล้อย, หน้าอกไม่เต็มคัพ หรือให้หน้าอกใหญ่ขึ้นในระดับที่ต้องการ เมื่อเราเสริมหน้าอกมาแล้ว หน้าอกจะมีขนาดและรูปทรงตามที่เราคาดหวัง ทำให้ความมั่นใจของเราเพิ่มขึ้น แต่งตัวได้ง่ายขึ้น ใส่ชุดไหนก็ดูสวยดูดี และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “หน้าอก” เป็นจุดที่ทำให้เราดูน่าดึงดูดใจสูง
ซึ่งการเสริมหน้าอกจัดว่าเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมรูปแบบหนึ่ง ทำให้มีผลข้างเคียงและความเสี่ยงเกิดขึ้นได้ ดังนั้น เราจึงจำเป็นที่จะต้องเลือกสถานที่เสริมหน้าอกหรือคลินิกเสริมหน้าอกที่ได้มาตรฐาน มีการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์เฉพาะทาง ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย และมีการให้ยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์ เพื่อให้คุณได้หน้าอกที่สวยพอดีตัว ดูธรรมชาติ พึงพอใจ และมีผลข้างเคียงน้อยที่สุดนั่นเอง แต่ไม่ต้องกังวลไป ด้านล่างของบทความนี้มีวิธีเลือกสถานที่เสริมหน้าอกมาฝากกันด้วย
การเสริมหน้าอกที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันจะมีอยู่ 3 วิธีด้วยกัน โดยจะเป็นการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนอย่างที่เราคุ้นเคยกันดี, การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง และการเสริมหน้าอกเทคนิคไฮบริด (ซิลิโคนผสานกับไขมัน) ซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีข้อดีและข้อเสีย หรือจุดเด่นที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ ผู้อ่านสามารถเลือกเสริมหน้าอกตามวิธีที่ชื่นชอบได้เลย หรือจะพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ประเมินตามความเหมาะสมให้ก็ย่อมได้
1.การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน
การเสริมหน้าอกซิลิโคน จะใช้ถุงเต้านมเทียมหรือถุงซิลิโคนเสริมหน้าอกใส่เข้าไปใต้เต้านม โดยการเปิดแผลผ่าตัดขนาด 2-3 เซ็นติเมตร (ตำแหน่งในการเปิดแผลจะมีรักแร้ รอบปานนม และใต้ราวนม ซึ่งบริเวณใต้ราวนมจะได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน) และเราสามารถวางซิลิโคนได้ทั้งหมด 3 แบบ คือเหนือกล้ามเนื้อ, ใต้กล้ามเนื้อ และระหว่างกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ ยังมีซิลิโคนเสริมหน้าอกให้เลือกหลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นขนาดของซิลิโคน, ผิวสัมผัสของถุงซิลิโคน, รูปทรงของซิลิโคน และรวมไปถึงยี่ห้อของซิลิโคนด้วย
2.การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง
การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง หรือการฉีดไขมันหน้าอก (Fat Grafting) เป็นการเพิ่มขนาดหน้าอกด้วยการใช้สารเติมเต็ม ซึ่งสารเติมเต็มในที่นี้ก็คือเซลล์ไขมันที่อยู่ตามส่วนต่าง ๆ บนร่างกายเรานี่เอง ด้วยการที่เป็นเซลล์ไขมันจากร่างกายของคนไข้ จึงไม่เกิดอาการแพ้หรือมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อน้อยมาก ทั้งนี้ ผู้อ่านจะต้องเลือกคลินิกฉีดไขมันที่ได้มาตรฐาน และทุกขั้นตอนต้องทำอย่างปลอดเชื้อด้วยเช่นกัน จึงจะไม่เกิดปัญหาใด ๆ ขึ้น
เนื่องจากการฉีดไขมันหน้าอกจะต้องใช้ปริมาณของเซลล์ไขมันค่อนข้างเยอะ (หลายร้อยซีซี) จึงต้องมีการใช้เครื่องดูดไขมันเข้ามาช่วยนำไขมันออกมา สำหรับเครื่องดูดไขมันที่แนะนำคือเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ Body-jet เพราะเป็นเครื่องเดียวที่ทำให้ได้เซลล์ไขมันที่ยังมีชีวิตอยู่ มีคุณภาพดี เหมาะกับการนำไปเติมเต็มในส่วนอื่น ๆ ต่อไป (ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บเซลล์ไขมัน ไปตลอดจนการฉีดไขมันเข้าไปที่หน้าอก จะต้องอยู่ในระบบปลอดเชื้อทั้งหมด ห้ามให้เซลล์ไขมันสัมผัสกับอากาศเด็ดขาด จึงจะปลอดเชื้อและปลอดภัยจริง)
3.การเสริมหน้าอกไฮบริด
การเสริมหน้าอกไฮบริด (Hybrid Breast Augmentation) เป็นเทคนิคการเสริมหน้าอกแบบใหม่ ที่ลดข้อจำกัดและนำเอาข้อดีของการเสริมหน้าทั้งสองแบบข้างต้นมาไว้ด้วยกัน โดยจะเป็นการเพิ่มขนาดฐานหน้าอกให้ใหญ่ขึ้นด้วยซิลิโคน จากนั้นจะฉีดไขมันเข้าไป เพื่อกลบขอบซิลิโคนให้จางลง ทำให้หน้าอกมีสัมผัสและรูปทรงที่ดูธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเหมาะกับเคสที่ต้องการเสริมหน้าอกแบบพอดีตัว และต้องการความธรรมชาตินั่นเอง
อยากเสริมหน้าอกต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน เมื่อเรามีข้อมูลพื้นฐานแล้ว การตัดสินใจเลือกสถานที่เสริมหน้าอก เลือกแพทย์ หรือเลือกเทคนิคการเสริมหน้าอกของเราจะง่ายขึ้น และมีความมั่นใจมากขึ้น หรืออย่างน้อย เราก็สามารถทราบได้ว่าตัวเราต้องการให้หน้าอกออกมาเป็นอย่างไร? และเสริมหน้าอกแบบไหน?
1.ขนาดของซิลิโคนเสริมหน้าอก
ซิลิโคนเสริมหน้าอกมีหลายแบบให้เลือก โดยเราจะเลือกจากขนาดของซิลิโคนเลย ซึ่งก็มีตั้งแต่น้อยกว่า 200 CC ไปจนถึงมากกว่า 400 CC (ส่วนใหญ่แล้วคนไข้มักจะเลือกเสริมหน้าอก 250-350 CC) เนื่องจากคนไข้แต่ละคนมีสัดส่วนและฐานหน้าอกที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น ขนาดของซิลิโคนเสริมหน้าอกที่เหมาะสมจึงแตกต่างกันไป ถ้าอยากรู้ว่าขนาดไหนเหมาะกับตัวเองที่สุด ต้องพบแพทย์ให้แพทย์ประเมินโดยตรง
2.รูปทรงและผิวสัมผัสของซิลิโคน
หลัก ๆ รูปทรงของซิลิโคนจะมีอยู่ 2 ทรง เป็นซิลิโคนเสริมหน้าอกทรงกลมและทรงหยดน้ำ การเลือกใช้ก็แล้วแต่ความชอบของคนไข้และความเหมาะสม อย่างเคสที่เนินหน้าอกน้อย แล้วอยากเพิ่มเนินหน้าอก จะแนะนำให้เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนทรงกลมมากกว่า ส่วนเคสไหนที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ หน้าอกมีความคล้อยเหมือนหน้าอกจริง จะแนะนำให้ใช้เป็นซิลิโคนทรงหยดน้ำ
3.ตำแหน่งในการเปิดแผลผ่าตัด
ตำแหน่งในการเปิดแผลเสริมหน้าอกจะมีอยู่ 3 ตำแหน่ง
4.ตำแหน่งในการวางซิลิโคนเสริมหน้าอก
การเสริมหน้าอกไม่ใช่แค่การเอาซิลิโคนเข้าไปที่เต้านมอย่างเดียวเท่านั้น แพทย์จะต้องวางซิลิโคนในตำแหน่งที่เหมาะสมด้วย ซึ่งตำแหน่งในการวางซิลิโคนเสริมหน้าอกจะมีอยู่ 3 แบบ คือวางเหนือกล้ามเนื้อ, วางใต้กล้ามเนื้อ และวางแบบระหว่างกล้ามเนื้อ สำหรับหมอขอแนะนำให้วางซิลิโคนแบบระหว่างกล้ามเนื้อครับ เพราะจะได้ผลลัพธ์ที่ดูเหมือนหน้าอกจริงมากที่สุด และไม่มีปัญหาคลำเจอขอบซิลิโคนบริเวณเนินอกด้วย
หลาย ๆ คนคงจะเคยเห็นผ่านตามาบ้างแล้ว ว่าถึงแม้จะทำหัตถการเดียวกัน กับแพทย์คนเดียวกัน ด้วยเทคนิคเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ นั่นเป็นเพราะร่างกาย สัดส่วน สรีระ และปัญหาของคนไข้แต่ละคนไม่เหมือนกันนั่นเอง ถ้าอยากให้เสริมหน้าอกออกมาสวย 70% ขึ้นอยู่กับการวางแผนการผ่าตัดของศัลยแพทย์ ส่วนอีก 30% ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้ เรามาดูกันดีกว่าว่า 3 ปัจจัยหลัก ที่ส่งผลต่อผลลัพธ์หลังเสริมหน้าอกนั้นมีอะไรบ้าง?
1.ปัจจัยของคนไข้แต่ละคน
ปัจจัยเรื่องของคนไข้ก็สามารถแตกย่อยออกไปได้อีก ไม่ว่าจะเป็นขนาดของหน้าอกที่ต้องการ, ขนาดของฐานหน้าอกเดิม, สภาพผิวบริเวณหน้าอก, ปริมาณของเนื้อหน้าอกเดิม, ความยุบตัวของเนินหน้าอก, วิธีเสริมหน้าอกที่คนไข้สนใจ และรวมไปถึงความต้องการของคนไข้ด้วย แพทย์จะนำข้อมูลเหล่านี้มาประเมิน และเลือกวิธีการเสริมหน้าอกที่เหมาะสมที่สุดให้ หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ วิเคราะห์และประเมินข้อมูลได้ไม่ถูกต้อง ด็อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างที่ต้องการได้เช่นกัน
2.การเลือกซิลิโคนหน้าอกให้เหมาะสม
การเลือกซิลิโคนที่เหมาะสมแล้วทำให้หน้าอกออกมาสวย หลลัก ๆ คือเรื่องของขนาดครับ ควรเสริมหน้าอกในขนาดที่พอดีพอเหมาะกับตัวเอง ไม่ควรเสริมหน้าอกใหญ่เกินตัว เพราะอาจจะทำให้มีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาได้ ตอนที่คนไข้เข้ามาพบแพทย์ แพทย์จะประเมินขนาดของซิลิโคนที่เหมาะสมให้คนไข้อย่างคร่าว ๆ เช่น 225-300 CC แล้วให้คนไข้ลองสวมบราลองขนาดซิลิโคนดูว่าพึงพอใจไซซ์ไหน หากไม่โอเคก็สามารถพูดคุยกับแพทย์ได้
3.เทคนิคเสริมหน้าอกของแพทย์แต่ละคน
แพทย์แต่ละคนจะมีความถนัดและมีเทคนิคเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ผลลัพธ์หลังการรักษาแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคในการเปิดแผล, วิธีวางซิลิโคน, วิธีคัดเลือกซิลิโคน, เทคนิคในการปิดแผล ฯลฯ ถ้าอยากรู้ว่าแพทย์ที่เราสนใจมีเทคนิคอะไรเป็นพิเศษที่แตกต่างจากคนอื่น แนะนำให้เข้าไปพบแพทย์และสอบถามโดยตรง จากนั้นก็ดูรีวิวเสริมหน้าอกประกอบการตัดสินใจด้วย
ผสานหลายเทคนิคเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า!
ผสาน 2 เทคนิคเพื่อให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติที่สุด!
เทคนิคนี้ เป็นการเสริมหน้าอกแบบไฮบริด (ซิลิโคน + ไขมัน) แต่จะมีการวางซิลิโคนไว้แบบระหว่างกล้ามเนื้อ (Dual Plane) ซึ่งจะวางซิลิโคนส่วนบนไว้ใต้กล้ามเนื้อ และวางซิลิโคนส่วนล่างไว้เหนือกล้ามเนื้อ เพื่อทำให้หน้าอกเป็นทรงคล้อยด้านล่างเหมือนหน้าอกจริงมากขึ้น จึงดูธรรมชาติสูง
แผลสวยเสมือนไร้รอยต่อ ไม่มีรอยเย็บ
เทคนิคนี้เป็นการใช้กาวชนิดพิเศษ (เฉพาะสำหรับทางการแพทย์) ในการปิดแผลเสริมหน้าอก ทำให้แผลสมานแนบชิดและสมานตัวกัน โดยไร้รอยเย็บ อีกทั้งยังทำให้แผลมีขนาดเล็กและฟื้นตัวไวอีกด้วย
เจ็บน้อย หายเร็ว ไม่ต้องใส่สายเดรน
แพทย์จะใช้มีดผ่าตัดแบบไฟฟ้าในการเปิดแผล ทำให้ให้ขณะที่เปิดแผลมีการห้ามหยุดเลือดควบคู่กันไปด้วย เลือดจึงออกน้อย ทำให้เกิดการบาดเจ็บน้อย ระบมช้ำน้อย และไม่ต้องใส่สายเดรนหลังผ่าตัด เนื่องจากมีเลือดค้างอยู่ในหน้าอกน้อยมาก โดยแผลจะมีขนาดเล็กประมาณ 2-3 เซ็นติเมตรเท่านั้น
แผลเล็ก บวมช้ำน้อย ไร้เสี่ยงติดเชื้อ
เสริมซิลิโคนเข้าไปที่เต้านม โดยการใช้กรวยพิเศษทางการแพทย์ เพื่อลดขนาดของแผล ลดการบาดเจ็บ และลดระยะเวลาในการฟื้นตัวของร่างกาย นอกจากนี้ ยังช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อลงได้อีกด้วย
Amara Clinic (เอมาร่าคลินิก) คลินิกความงามที่มีบริการทั้งในส่วนของศัลยกรรมใบหน้า ศัลยกรรมลำตัว และผิวพรรณอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นบริการเสริมหน้าอก, เสริมจมูก, เสริมคาง, ผ่าตัดหน้าอก, ผ่าตัดหนังหน้าท้อง, ยกกระชับผิว, ดูดไขมัน, เติมไขมัน ฯลฯ อีกทั้งยังเป็นศูนย์ดูดไขมัน เติมไขมัน กระชับสัดส่วนเฉพาะทางอีกด้วย นำโดยศัลยแพทย์เฉพาะทาง, แพทย์ผู้ชำนาญการด้านดูดไขมัน-เติมไขมัน, วิสัญญีแพทย์วิชาชีพ, พยาบาลวิชาชีพ และเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ในการดูแลคนไข้สูง
เสริมหน้าอกที่ไหนดี? ทำนมที่ไหนดี? ถ้าไม่อยากพลาดไปพบสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน แพทย์ไม่เชี่ยวชาญ และมีความเสี่ยงสูง ต้องมาทำความเข้าใจและ Checki List สิ่งที่ต้องสอบถามก่อนเสริมหน้าอกก่อนเลยครับ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ผู้อ่านได้เสริมหน้าอกกับสถานที่ที่ได้มาตรฐานจริง หน้าอกสวยตรงตามความต้องการ ปลอดภัย และมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด!
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องหน้าอกเล็ก หน้าอกแบน หรือหน้าอกหย่อนคล้อย แล้วอยากให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้น อึ๋มขึ้น ในระยะเวลาไม่นาน และเห็นผลนาน ๆ การเสริมหน้าอกเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ที่สุด ทั้งนี้ วิธีและเทคนิคในการทำนมก็มีอยู่หลายแบบตามที่หมอได้แนะนำไป ถ้าอยากทราบว่าตัวเองควรเสริมหน้าอกแบบไหน? เสริมหน้าอกกี่ซีซี? หรือทำนมดีไหม? แนะนำให้เข้ามาปรึกษาศัลยแพทย์ที่ Amara Clinic โดยตรงเลยครับ สามารถปรึกษาก่อนแล้วค่อยกลับบ้านไปตัดสินใจทีหลังได้เลย หรือจะชมรีวิวเสริมหน้าอก เพื่อดูผลงานของแพทย์ก่อนก็ได้เช่นกัน
ลงทะเบียนปรึกษา คลิกที่นี่
ติดต่อสาขารัชโยธิน : 062-946-2397
ติดต่อสาขาราชพฤกษ์ : 062-556-6623
ติดต่อทาง LINE : @amaraclinic
กดที่ลิ้งค์นี้ได้เลย >> https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic
