เรื่องของเทรนด์การลดหุ่นในปัจจุบันเรียกได้ว่ามีหลายวิธีให้ทำตามเยอะเต็มไปหมดเลยครับ แต่มีหนึ่งวิธีที่หลายเริ่มให้ความสนใจกันมากขึ้นคือ “การดูดไขมัน (Liposuction)” หลายคนอาจกำลังสงสัยว่าการดูดไขมัน คืออะไร? ช่วยเรื่องอะไร? อันตรายหรือเปล่า? วันนี้หมอไอซ์ Amara Clinic จะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับการลดไขมันด้วยวิธีดูดไขมันให้มากขึ้น พร้อมรีวิวดูดไขมันจากเคสจริงให้ทุกคนได้ชมกันอย่างจุใจเลยครับ ใครอยากหุ่นดีไม่มีส่วนเกินตามหมอมาเลยครับ
การดูดไขมัน คือ การสลายไขมันและกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่บริเวณใต้ชั้นผิวหนังออกไป ด้วยเครื่องดูดไขมันไม่ว่าจะเป็น เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ, พลังคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ และพลังงานกล เป็นต้น โดยการดูดไขมันจะใช้เทคนิคดูดไขมันหรือ Lipsuction ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยปรับขนาดของรูปร่างให้เล็กลง รวมทั้งยังช่วยลดไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายออกไปได้จำนวนมากภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ดังนั้นไม่ว่าจะมีปัญหาส่วนเกินที่ หน้าท้อง, ต้นขา, ต้นแขน, หรือปีกหลัง ก็สามารถลีนไขมันออกไปได้ง่าย ๆ การดูดไขมันจึงช่วยตอบโจทย์คนที่มีปัญหารูปร่างแล้วลดยาก หรือ ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์แบบเร่งด่วน
แม้ว่าในปัจจุบันการดูดไขมันจะสามารถเข้าถึงง่ายกว่าอดีต แต่ว่าการดูดไขมันยังคงเป็นวิธีลดหุ่นที่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากหลังดูดไขมันคนไข้มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังดูดไขมันได้ และความเสี่ยงนี้จะเพิ่มมากยิ่งขึ้นหากทำโดยผู้ที่ไม่มีประสบการณ์มากพอ ดังนั้นก่อนตัดสินใจดูดไขมันหมอแนะนำให้คนไข้ศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เพื่อที่เราจะได้เข้าใจถึงข้อดีและข้อเสียอย่างแท้จริง อีกทั้งยังช่วยให้ทุกคนมีความเข้าใจดีจนสามารถเลือกคลินิกดูดไขมันได้ไม่พลาดด้วยครับ ดังนั้นใครที่อยากดูดไขมันจริง ๆ จึงควรอ่านข้อมูลในบทความนี้ให้ครบถ้วนจะดีที่สุดครับ
ในแง่ของความสวยงามแน่นอนว่าการดูดไขมันช่วยในเรื่องของการปรับรูปร่าง เสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้น และช่วยลดสัดส่วนโดยตรงเลยครับ ไมว่าจะเป็น การลดหน้าท้อง ลดพุง ลดต้นแขนต้นขา และนอกจากนี้การดูดไขมันยังช่วยให้คนไข้สามารถเพิ่มส่วนเว้าโค้งให้กับรูปร่างได้อีกด้วยครับ อย่างเช่น คนที่มีปัญหาหุ่นตรงแข็งทื่อก็สามารถที่จะเลือกดูดไขมันบริเวณเอว เพื่อเพิ่มความสับให้เอวได้ครับ รวมทั้งปัญหาสะโพกบุ๋มก็สามารถแก้ไขได้เช่นกันครับ และด้วยความที่เครื่องมือสำหรับดูดไขมันในปัจจุบันก้าวหน้าไปมาก จึงทำให้การดูดไขมันไม่เพียงแค่ดูดไขมันทิ้ง ๆ ไปเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างร่อง 11, Sexy Line และ ซิกแพคที่หน้าท้องได้อีกด้วยครับ ผู้ที่มาดูดไขมันจึงได้ทั้งรูปร่างที่เล็กลงและหุ่นที่ดูสุขภาพดีไปพร้อมกัน
ในด้านของการใช้ชีวิตประจำวัน จากที่หมอได้พูดคุยกับคนไข้หลาย ๆ ท่าน ต่างพูดเหมือนกันว่าการดูดไขมันไม่เพียงแค่ให้หุ่นสวย ๆ แต่การดูดไขมันยังช่วยให้คนไข้คล่องตัวมากขึ้น สามารถทำกิจกรรมในชีวิตได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น เคลื่อนไหวตัวได้อย่างคล่องแคล่วในทุก ๆ กิจกรรม
การได้มีรูปร่างแบบที่เราชอบ แน่นอนว่าความมั่นใจของคน ๆ นั้นก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นี่จึงถือเป็นอีกสิ่งที่การดูดไขมันช่วยทำให้คนไข้หลาย ๆ คนที่หมอได้รู้จัก สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจและแต่งตัวได้สนุกยิ่งขึ้น ความเครียดและความกังวลเกี่ยวกับเรื่องรูปร่างก็ลงน้อยลงตามด้วยครับ
การดูดไขมัน หลายคนมักคิดว่าเป็นการผ่าตัดที่กระทบต่ออวัยวะภายใน แต่จริง ๆ ไม่ใช่อย่างที่หลายคนคิดเลยครับ เพราะการดูดไขมันเป็นการดูดไขมันส่วนที่อยู่บริเวณด้านบนของกล้ามเนื้อหรือที่เรียกว่า ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งในร่างกายของคนเราจะประกอบไปด้วยไขมันทั้งหมด 4 กลุ่มหลัก ๆ ด้วยกัน ดังนี้
จากการตรวจร่างกายของคนไข้ที่ปัญหาเรื่องของรูปร่าง มักพบไขมัน 2 ชนิดเป็นจำนวนมากคือ ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง และ ไขมันในช่องท้อง ซึ่งลักษณะการสะสมของไขมันทั้งสองส่วนจะมีลักษณะดังในภาพด้านล่าง
จากภาพจะเห็นได้ว่าไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ที่หมอต้องทำการดูดไขมันออกมา จะสะสมกันอยู่ที่บริเวณเหนือกล้ามเนื้อ เวลาที่หมอสลายไขมันหรือดูดไขมันส่วนนี้ออกมา จึงไม่กระทบต่ออวัยวะด้านในที่อยู่ถัดลงไปแน่นอนครับ ในการดูดไขมันที่ถูกต้องเราจึงไม่ทำการดูดไขมันในช่องท้องออกมา เพราะมีความเสี่ยงต่อชีวิตของคนไข้สูงมาก ๆ ครับ ดังนั้นไขมันในช่องท้องคนไข้จึงต้องลดด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายเองเท่านั้นครับ
หมอคะไขมันเยอะขนาดไหนถึงดูดไขมันได้? การเช็กไขมันของเรามีหลายวิธีให้ทุกคนได้ลองทำมากครับ มีทั้งแบบที่เช็กด้วยตัวเองที่บ้าน และแบบที่ไปเช็กกับทางโรงพยาบาลที่ให้ความแม่นยำสูง
การดูดไขมัน (Liposuction) อย่างที่เราทราบกันแล้วว่านี่เป็นหนึ่งวิธีที่ช่วยลดไขมันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการดูดไขมันไม่เพียงแค่มีข้อดีที่หลากหลายด้านเท่านั้น แต่ก็ยังมีข้อเสียที่ทุกคนควรศึกษาให้ดีและละเอียดก่อนตัดสินใจด้วยครับ
ข้อดีของการดูดไขมัน
ข้อเสียของการดูดไขมัน
หมายเหตุ: ผลลัพธ์หลังดูดไขมันในแต่ละเคสมีปัจจัยหลายส่วนที่ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ต่างกันไป อาทิเช่น ทักษะของแพทย์, เครื่องดูดไขมันที่ใช้, สภาพร่างกายของคนไข้, ห้องผ่าตัดและบริการหลังดูดไขมัน รวมทั้งความถี่ในการเข้ามาติดตามอาการกับที่คลินิก สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อผลลัพธ์หลังดูดไขมันทั้งสิ้น
หลายคนอาจกำลังสงสัยว่าเครื่องดูดไขมันแต่ละแบบต่างกันอย่างไร? แล้วแต่ละเครื่องทำงานอย่างไรบ้าง? แล้วปัญหาอย่างเราควรเลือกใช้เครื่องไหนในการดูดไขมัน? ซึ่งหมอต้องเล่าให้ทุกคนเข้าใจก่อนว่าการดูดไขมันในอดีตจะเป็นการดูดไขมันด้วยแรงมือแพทย์เท่านั้น ไม่มีการใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยมากนัก ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดปัญหาดูดไม่เกลี้ยงหรือผิวเป็นคลื่นก็มากกว่าในปัจจุบัน ด้วยจุดด้อยในส่วนนี้จึงทำให้เทคโนโลยีการแพทย์พัฒนาเครื่องดูดไขมันขึ้นมา เพื่อช่วยให้การดูดไขมันมีผลลัพธ์ที่สวยงามยิ่งขึ้น เจ็บน้อยและปลอดภัยกว่าเก่า เดี๋ยวเราไปดูกันเลยครับว่าในปัจจุบันมีเครื่องดูดไขมันชนิดไหนที่ได้รับความนิยมบ้าง
การดูดไขมันที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันคือ การดูดไขมันพลังน้ำ หรือการดูดไขมันแบบ Water Jet Assisted Liposuction หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดีในชื่อของ body-jet ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากประเทศเยอรมัน การดูดไขมันด้วยวิธีนี้ถือเป็นวิธีที่อ่อนโยนที่สุดของวงการการดูดไขมันเลยครับ
การดูดไขมันพลังน้ำ (Water Jet) แพทย์จะใช้พลังงานน้ำฉีดพ่นเข้าไปในร่างกายใต้ชั้นผิวหนังในรูปแบบของใบพัด เซลล์ไขมันที่เกาะตัวกันเป็นก้อนจะถูกแยกด้วยพลังน้ำที่ส่งไปอย่างอ่อนโยน ทำให้ไขมันที่ได้หลังจากการดูดไขมันด้วย Water Jet เป็นเซลล์ไขมันที่ยังมีชีวิตสมบูรณ์ดี ทำให้แพทย์สามารถนำไขมันตรงนี้ไปฉีดในส่วนที่ขาดได้ เช่น เติมไขมันหน้าเด็ก, เติมไขมันหน้าอก, เติมไขมันก้น, และเติมไขมันน้องสาว นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้การดูดไขมันด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำได้รับความนิยมยิ่งขึ้น
ข้อดี
ข้อเสีย
ดูดไขมันส่วนเกิน เติมส่วนที่ขาด ด้วยเครื่อง body-jet
การเติมไขมันเป็นวิธีที่ช่วยให้ผิวบริเวณนั้นมีความอิ่มเอิบและผิวดูฟูยิ่งขึ้น ไม่มีสารเคมีตกค้างใด ๆ แต่ก็ใช่ว่าจะนำไขมันอะไรมาเติมก็ได้นะครับ เพราะหากใช้ไขมันที่ตายแล้วมาฉีดจะไม่เห็นผลเลยครับ การเติมไขมันจึงจำเป็นต้องดูดไขมันออกมาโดยการใช้เครื่อง body-jet ที่เป็นการใช้พลังน้ำในการสลายไขมัน ทำให้ไขมันมีคุณภาพและมีโอกาสติดสูง เนื่องจากก่อนนำไปเติมแพทย์จะมีการนำไขมันไปคัดกรอง และแยกเก็บไว้ที่ถังเก็บไขมันสูญญากาศปลอดเชื้อสูง ดังนั้นการเติมไขมันด้วยวิธีนี้จึงมีความปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ สำหรับจุดที่ฉีดไขมันได้มีดังนี้
ที่ Amara Clinic มากกว่าความเชี่ยวชาญในด้านการดูดไขมันคือ แพทย์ของเราเป็น KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมันและเติมไขมัน ที่นี่คุณหมอของเรามีความสามารถและทักษะในการใช้เครื่องดูดไขมัน body-jet สูง จึงได้รับความไว้วางใจจากคนไข้ในการเลือกดูดไขมันด้วยเครื่อง body-jet มากเป็นอันดับ 1 การันตีด้วยรางวัล The Most body-jet Users นอกจากนี้ Amara Clinic ยังเป็นศูนย์การสอนดูดไขมัน เติมไขมัน ด้วยเครื่องดูดไขมัน body-jet (body-jet Education Center) ที่มีคุณหมอไอซ์ และคุณหมอมะปรางเป็นผู้ให้ความรู้ในด้านนี้ ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าการมาดูดไขมันที่ Amara Clinic ได้หุ่นสวยกลับไปแบบไม่เสี่ยงแน่นอน
สำหรับการดูดไขมันแบบพลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ จะมีอยู่สองรุ่นที่นิยมใช้ด้วยกันคือ เครื่องดูดไขมัน Veser Smooth 2.2 กับเครื่องดูดไขมัน Ultra Z ซึ่งการดูดไขมันในลักษณะนี้จะใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์มาใช้ในการสลายไขมัน โดยการปล่อยพลังอัลตร้าซาวด์ลงไป เมื่อไขมันใต้ชั้นผิวหนังเจอกับคลื่นเสียงไขมันก็จะแตกตัวกลายเป็นน้ำมัน หลังจากนั้นแพทย์จะทำการดูดไขมันในส่วนนี้ออกไป ซึ่งการดูดไขมันในลักษณะนี้จะไม่สามารถนำไปเติมต่อได้ เนื่องจากไขมันแตกตัวหรือไขมันตายแล้วนั่นเองครับ
ความโด่ดเด่นของการดูดไขมันด้วยเครื่องดูดไขมันพลังคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์คือ พลังงานในการสลายไขมันสูงทำให้ดูดไขมันออกมาได้เยอะในเวลาอันรวดเร็ว จึงเหมาะกับเคสที่มีไขมันส่วนเกินหนามาก ๆ หรือผู้ที่มีพังผืดที่ชั้นไขมันเยอะอย่างเช่น เคสคุณผู้ชาย หรือ คนที่เคยผ่านการดูดไขมันมาแล้ว
ข้อดี
ข้อเสีย
การดูดไขมันแบบพลังงานกล หรือ Power Assisted Liposuction จะไม่ใช่การนำพลังงานความร้อนหรือน้ำมาใช้ในการสลายไขมัน แต่ว่าจะเป็นการสลายไขมันที่คล้ายกับ Manual Liposuction ที่เป็นการดูดไขมันแบบดั่งเดิม ต่างกันตรงที่เคลื่อนดูดไขมันส่งพลังงานความถี่ไปที่เข็มดูดไขมันให้ขยับเร็วขึ้นจนไขมันแตกตัว ทำให้ไขมันดูดออกมาง่ายขึ้นกว่าแบบการดูดแบบเก่า หลังจากนั้นแพทย์จึงทำการดูดไขมันที่แตกตัวออกมา
ข้อดี
ข้อเสีย
การดูดไขมันแบบพลังคลื่นความถี่วิทยุ หรือ RF เป็นการดูดไขมันที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดีอย่าง การดูดไขมัน BodyTite ซึ่งการดูดไขมันชนิดนี้จะเป็นการแยกเซลล์ไขมันด้วยความร้อนแล้วจึงทำการดูดไขมันออกมา ดังนั้นไขมันที่ได้จะมีลักษณะเป็นน้ำมันหรือไขมันที่ตายแล้ว จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูดไขมันแล้วทิ้งเท่านั้น
ข้อดี
ข้อเสีย
นอกจากการดูดไขมันในแบบที่หมอได้กล่าวไปเบื้องต้นแล้ว ก็ยังมีการดูดไขมันแบบ
ซึ่งทั้งสามวิธีนี้จะช่วยดูดไขมันออกมาได้เช่นกัน แต่จะดูดได้ไม่ค่อยดีและมีความเสี่ยงที่คนไข้จะเกิดอาการแทรกซ้อนได้เยอะหลังทำ ดังนั้นหากใครที่ต้องการดูดไขมัน หมอจะไม่แนะนำให้ทำด้วยการดูดไขมันในลักษณะนี้มากเท่าไหร่เพราะมีความอันตรายต่อตคนไข้อย่างมากครับ
ไม่ว่าจะเลือกดูดไขมันที่บริเวณไหน ขั้นตอนของการดูดไขมันก็จะไม่แตกต่างกันมากครับ แต่จะมีจุดที่ต่างกันออกไปคือขั้นตอนการแยกเซลล์ไขมัน โดยขั้นตอนหลัก ๆ มี 3 ขั้นตอนดังนี้
สำหรับตำแหน่งในการดูดไขมัน จริง ๆ สามารถทำได้ทั้งบริเวณช่วงใบหน้าและลำตัวเลยครับ หากในตำแหน่งนั้นมีปริมาณของไขมันที่มากเพียงพอสำหรับการดูดไขมันออกมา ไม่ว่าจะเป็น
สำหรับผู้ที่ต้องการดูดไขมันแล้วกำลังสงสัยว่าควรเตรียมตัวอย่างไรดี? ซึ่งการดูดไขมันจะมีทั้งแบบการผ่าตัดโดยใช้ยาชาและยาสลบ ดังนั้นการเตรียมตัวจึงแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบด้วยกันครับ
ก่อนดูดไขมันหมอแนะนำให้คนไข้ปฎิบัติตัวตามคำแนะนำ หากละเลยในส่วนนี้ไปจะส่งผลอันตรายต่อคนไข้ได้ โดยเฉพาะการงดสูบบุหรี่ งดการดื่มเครื่องดื่ม และการงดทานอาหารก่อนผ่าตัด 8 ชั่วโมง เพราะหากคนไข้ไม่ปฎิบัติตามในส่วนนี้จะทำให้สิ่งที่อยู่ในช่องสำลักเข้าสู่ปอดและทางเดินหายใจได้ นี่จึงเป็นสิ่งที่หมอจะกำชับกับคนไข้ทุกเคสเสมอ เพื่อให้การดูดไขมันเป็นไปตามแผนที่วางไว้มากที่สุด
หลังดูดไขมันคนไข้ส่วนใหญ่มักจะมีอาการหน้ามืด คลื่นไส้อยากอาเจียน และเวียนหัวเป็นระยะ นั่นเป็นเพราะคนไข้มีการสูญเสียน้ำในร่างกายปริมาณมากทำให้ร่างกายขาดความสมดุล อีกทั้งอาการเหล่านี้ยังสามารถเกิดขึ้นจากการใช้ยาชาและยาสลบได้ด้วยครับ ซึ่งอาการเหล่านี้ทางการแพทย์เราจะเรียกว่า อาการเมายาสลบ ความรุนแรงของอาการในแต่ละเคสจะมีผลมาจากการพักผ่อนของคนไข้ก่อนดูดไขมัน หากนอนน้อยก็จะยิ่งมีอาการเมาที่รุนแรงกว่าเคสที่พักผ่อนมาอย่างเพียงพอ อาการดังกล่าวสามารถบรรเทาลงได้ด้วยการดื่มน้ำ เพราะน้ำเปล่าจะช่วยขับยาชาออกมาได้มากขึ้น ทำให้คนไข้รู้สึกสบายตัวยิ่งขึ้นและช่วยทดแทนน้ำในร่างกายที่เสียไป หลังผ่านไป 12-24 ชั่วโมง อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับครับ
นอกจากอาการเหล่านี้แล้ว ในช่วงพักฟื้นคนไข้จะมีความระบบช้ำและรู้สึกปวดตามจุดที่ดูดไขมัน ระดับของความเจ็บปวดจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคนไข้แต่ละเคสและประเภทเครื่องดูดไขมันที่ใช้ อย่างในคนที่ดูดไขมันด้วย body-jet ก็จะมีความบวมช้ำน้อยมาก ๆ ครับ อีกทั้งเทคนิคที่แพทย์ใช้ก็เป็นอีกเหตุผลที่เพิ่ม-ลดอาการหลังดูดไขมันได้ด้วย
นอกจากอาการหลังดูดไขมันที่หมอได้กล่าวไปแล้ว การดูดไขมันและดูแผลหลังทำที่ไม่เหมาะสม ยังสามารถส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เหล่านี้ได้ด้วยครับ
แม้ว่าการติดเชื้อหลังการดูดไขมันจะเกิดขึ้นได้น้อยมาก ๆ เพราะว่าการดูดไขมันจะมีการใช้ Tumescent ซึ่งมีฤกษ์ความเป็นกรด ทำให้เชื้อโรคถูกฆ่าตายได้ครับ แต่หากว่าคนไข้เลือกดูดไขมันกับคลินิกที่ไม่มีมาตรฐาน ห้องผ่าตัดมีเชื้อโรคสะสม ก็สามารถมีความเสี่ยงที่คนไข้จะเกิดการติดเชื้อได้ครับ ดังนั้นจึงควรเลือกดูดไขมันกับคลินิกที่มีมาตรฐานและมีอุปกรณ์ที่สะอาด จะช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนนี้ได้
ภาวะซีโรม่า เป็นภาวะที่ร่างกายมีน้ำสะสมอยู่ใต้ผิวหนังเป็นจำนวนมาก จนส่งผลให้ผิวหนังมีลักษณะเป็นก้อนนูนขึ้นมา ภาวะนี้จะพบได้หลังการผ่าตัดหรือการดูดไขมัน เนื่องจากเวลาที่เราต้องทำการผ่าตัดใต้ผิวหนังของเราจะเกิดช่องว่างขึ้น ร่างกายจึงสร้างขึ้นมาเติมเต็มในช่องว่างเหล่านั้น แต่เราสามารถป้องกันอาการนี้ได้ด้วยการสวมชุดกระชับทันทีหลังดูดไขมัน นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่คนไข้จะต้องสวมชุดกระชับในช่วงพักฟื้นตามเวลาที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่ดครัด แต่หากว่าคนไข้ดันมี Seroma ขึ้นมาจะต้องมาเจาะเอาน้ำใต้ผิวออกครับ
ปัญหาก้อนแข็งไตเป็นอาการแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยกว่า 2 อาการด้านบน ซึ่งอาการก้อนแข็งก้อนไตสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ผลจากภาวะ Seroma, อาการพังผืดหลังดูดไขมัน และอาการห้อเลือด ซึ่งการแก้ไขและป้องกันก้อนแข็งไตเหล่านี้ ก็สามารถทำได้ด้วยการทำ After Care เช่น การสวมชุดกระชับให้ครบชั่วโมง การนวด RF และการประคบอุ่น
สำหรับเคสที่ดูดไขมันแล้วผิวเป็นคลื่นบุ๋ม มักมาจากความไม่ชำนาญของแพทย์ที่ทำการดูดไขมัน เครื่องมื่อที่ใช้ไม่เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้ และยังสามารถมีสาเหตุมาจากการดูดไขมันออกไปไม่หมดด้วยครับ ซึ่งอาการนี้จะส่งผลต่อความสวยงามของผิวหนังอย่างมากครับ ทำให้เกิดความกังวลใจได้ สำหรับวิธีแก้ไขปัญหานี้หากมีปัญหาไม่เยอะมากสามารถนวด RF เพื่อสลายไขมันได้ แต่หากผิวเป็นคลื่นจนมีส่วนเว้าเยอะแพทย์จะทำการเติมไขมันเข้าไปครับ
ที่ Amara Clinic เราเป็นศูนย์ไขมัน-เติมไขมัน ที่มีจำนวนเคสเยอะระดับประเทศ ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ตอบโจทย์คนทุกเพศทุกไซซ์ทำให้ที่ Amara Clinic สามารถหยิบจับเครื่องมือมารังสรรค์หุ่นในฝันให้กับทุกท่านได้อย่างตอบโจทย์ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูงด้านการดูดไขมัน-เติมไขมัน และเรายังเป็น Body-jet Education Center ที่ให้ความรู้ในด้านการดูดไขมันพลังน้ำทั้งในไทยและต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เพื่อมอบบริการที่มีความปลอดภัยสูงและให้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ที่คลินิกของเราจึงใช้ห้องผ่าตัดเป็นระบบ Positive Pressure หรือ ห้องปลอดเชื้อความดันบวก ดังนั้นจึงวางใจได้ว่าการมาดูดไขมันที่ Amara Clinic จะได้ทั้งหุ่นสวยและการดูแลที่ปลอดภัย ใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ
คุณหมอดูดไขมันที่ Amara Clinic เป็นแพทย์ผู้ชำนาญด้านการดูดไขมัน-เติมไขมันโดยตรง ซึ่งคุณหมอไอซ์และคุณหมอมะปราง จบหลักสูตรการดูดไขมันระดับสูงสุดจากประเทศเกาหลีใต้ จึงทำให้เทคนิคที่คุณหมอใช้ในการดูดไขมันมีความสวยเสมือนจริง ตามแบบฉบับความงามของเกาหลี นอกจากนี้คุณหมอทั้งสองท่านยังได้รับการยอมรับในด้านทักษะการใช้เครื่องมือดูดไขมัน จากบริษัทเครื่องมือทางการแพทย์ระดับโลกมากมาย และได้รับการแต่งตั้งให้เป็น KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน-เติมไขมัน โดยบริษัทเครื่องดูดไขมันพลังงานน้ำ body-jet ประจำประเทศไทย ดังนั้นผลลัพธ์หลังทำของคนไข้ที่เลือกมาดูดไขมันที่ Amara Clinic จึงมีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างแท้จริง การันตีฝีมือของคุณหมอด้วยรางวัลจากทั้งสถาบันภายในประเทศและต่างประเทศมากมาย
ดูดไขมันที่ Amara Clinic เราไม่ใช่แค่การดูดไขมันทิ้งไปแล้วจบเท่านั้น ที่นี่เราใช้แนวคิดการดูดไขมันแบศาสตร์และศิลป์ (Sci & Art) ในการออกแบบรูปร่างให้กับคนไข้ด้วย เพื่อให้ผลลัพธ์หลังทำออกมามีความส่วน สมส่วน และเสริมบุคลิกภาพที่ดีให้กับคนไข้ยิ่งขึ้น ดังนั้นที่นี่แพทย์จึงมีการใช้เทคนิค Sexy line, การเหลาเอวเอส, การสร้างซิกแพค มาใช้ในการดูดไขมันเพิ่มด้วย
จะไซซ์ไหนหรือมีปัญหารูปร่างส่วนไหน ที่ Amara Clinic เรามีเครื่องดูดไขมันพร้อมตอบโจทย์คนไข้ทุกแบบเลยครับ เราเป็นทีเดียวในไทยที่มีเครื่องดูดไขมันครบทุกพลังงานไม่ว่าจะเป็น เครื่อง Body-jet, Vaser Smooth 2.2, Ultra Z, BodyTite Pro และ MicroAire PAL ซึ่งข้อดีของการที่เรามีเครื่องดูดไขมันให้เลือกเยอะแบบนี้ จะช่วยทำให้หมอสามารถที่จะเลือกเครื่องที่เหมาะกับปัญหาคนไข้จริง ๆ มาใช้ได้ ไม่ต้องไปฝืนใช้เครื่องที่ไม่เหมาะ เมื่อเครื่องมือพร้อม แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ผลลัพธ์หลังดูดไขมันก็จะดีตามไปด้วยครับ
นอกจากนี้เรายังมีเครื่องมือกระชับผิวให้เลือกครบจบในที่เดียวเลยครับ ทั้งเครื่อง J Plasma, Morpheus8 และ AccuTite ความกังวลเกี่ยวกับผิวที่ย้วยยับจึงสามารถจัดการไปพร้อม ๆ กับไขมันส่วนเกินในคราวเดียว มาที่ Amara Clinic ที่เดียวได้ทั้งหุ่นสวยและผิวเด็กกลับไปแน่นอนครับ
เรื่องของห้องผ่าตัดถือเป็นอีกหัวใจสำคัญของการดูดไขมันเลยครับ ห้องผ่าตัดที่ดีจะต้องเป็นห้องผ่าตัดคลีนรูมหรือ Positive Pressure เท่านั้น ที่ Amara Clinic หมอจึงสร้างห้องผ่าตัดให้เป็นไปตามมาตรฐาน Positive Pressure ที่ช่วยในการดันอากาศจากภายนอกไม่ให้เข้ามาในห้องผ่าตัด พร้อมระบบกรองอากาศและเชื้อโรค HEPA Filter ที่ช่วยให้อากาศภายในห้องผ่าตัดสะอาดสูงถึง 99.97% และยังมีระบบไฟฟ้าสำรองไม่ว่าข้างนอกจะไฟดับ ภายในห้องผ่าตัดก็ยังคงสามารถทำการดูดไขมันไปได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ภายในห้องยังมีการติดตั้งอุปกรณ์ช่วยชีวิตในกรณีฉุกเฉิกครบครัน พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์
เนื่องจากการดูดไขมันจำเป็นต้องใช้ยาชาและยาสลบ ที่นี่เราจึงมีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลคนไข้ในด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้การดูแลคนไข้ที่ดีที่สุดวิสัญญีแพทย์ของเราจึงจัดเป็นแบบ 1:1 คือตลอดการผ่าตัดจนคนไข้ฟื้น วิสัญญีแพทย์จะคอยอยู่ดูอาการคนไข้ตลอด รวมทั้งเช็กอัตราการเต้นของหัวใจค่าออกซิเจนและเฝ้าสังเกตความผิดปกติแบบรายบุคคล ใครที่กลัวเรื่องการวางยาสลบจึงมั่นใจได้เลยครับว่ามาที่ Amara Clinic ไม่เสี่ยงอย่างที่คิดแน่นอนครับ
การดูดไขมันนอกจากความสวยงามหลังทำจะมาจากฝีมือแพทย์แล้ว แต่อีก 30% ที่ช่วยให้ผลลัพธ์หลังดูดไขมันสวยงามได้สมบูรณ์ คือ การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน หรือ การทำ After Care ในส่วนนี้เป็นอีกจุดที่ทางเราให้ความสำคัญมาก ๆ ครับ เพราะอย่างที่ทุกคนได้อ่านไปก่อนหน้านี้ว่าหากมีการดูแลตัวเองที่ไม่เหมาะสม จะส่งผลให้เกิดอาการแทรกซ้อนหลังดูดไขมันตามมาได้ ดังนั้นที่ Amara Clinic เราจึงจัด After Care ดูแลคนไข้หลังทำให้อย่างครบครัน คนไข้ส่วนใหญ่ของเราจึงเกิดปัญหาแทรกซ้อนน้อยมาก ๆ อีกทั้งการดูแลด้วย After Care จะช่วยให้คนไข้สามารถฟื้นตัวได้ดีและมีผลลัพธ์ที่ตรงตามความคาดหวัง ซึ่ง After Care หลัก ๆ ของเราก็จะประกอบไปด้วย
ทางคลินิกมีข้อมูลรีวิวดูดไขมัน-เติมไขมันจากเคสจริงมากที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งเรายังมีสัมภาษณ์และรีวิวในรูปแบบวิดิโอให้คนไข้ได้ชมกันอย่างจุใจ รีวิวของเราเป็นภาพจากคนไข้จริง ไม่มีการรีทัชใด ๆ ดังนั้นจึงช่วยให้คนที่กำลังหาข้อมูลรีวิวอยู่ ได้ดูแลเปรียบเทียบกับปัญหาตัวเองได้ขึ้น พร้อมบทความบอกเล่าแชร์ประสบการณ์ดูดไขมันมากมาย
การดูดไขมันที่ Amara Clinic เราจะคิดแบบดูดไขมันราคาเหมา คือเป็นการคิดแบบเหมาทั้งสัดส่วนในบริเวณนั้น ๆ เช่น
สำหรับราคาการดูดไขมันจะเริ่มต้นที่ตำแหน่งละ 25,000 บาท สำหรับการดูดไขมันแบบดูดแล้วทิ้ง แต่ในส่วนของการดูดไขมันด้วยเครื่อง body-jet ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 39,900 บาทต่อตำแหน่ง (หากต้องการรายละเอียดราคาเพิ่มเติมสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ทาง LINE : @amaraclinic)
“เราไม่ใช่คลินิกดูดไขมันที่มีราคาถูกที่สุด แต่เรายึดมั่นที่จะเลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุด ปลอดภัยที่สุด สำหรับคนไข้ของเราทุกเคส และ เราจะไม่ยอมลดมาตรฐานอย่างแน่นอน! เราให้คำมั่นว่า ทุกเคสที่เข้ามาดูดไขมัน เติมไขมัน และรับบริการที่ Amara Clinic จะเป็นเคสที่หุ่นสวย ปลอดภัย เห็นผลจริง ในทุกเคส”
หมอหวังว่าทุกคนจะได้รับสาระความรู้เกี่ยวกับการดูดไขมันมากขึ้นแล้วนะครับ ซึ่งหมอก็อยากย้ำอีกครั้งว่าการดูดไขมันเป็นทางเลือกของคนที่ต้องการลดสัดส่วน ไม่ใช่การลดน้ำหนักแต่อย่างใด และเพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีควรคำนึงถึงความสามารถของแพทย์ เครื่องดูดไขมันที่ใช้ ห้องผ่าตัด และ After Care หลังทำ แต่หากว่าท่านใดต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการดูดไขมันเพิ่มเติม สามารถนัดคิวเพื่อปรึกษากับหมอได้เลยครับ การปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เลยครับ
ลงทะเบียนปรึกษา คลิกที่นี่
ติดต่อสาขารัชโยธิน : 062-946-2397
ติดต่อสาขาราชพฤกษ์ : 062-556-6623
ติดต่อทาง LINE : @amaraclinic
กดที่ลิ้งค์นี้ได้เลย >> https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic
