รีวิวแก้จมูก จมูกใหม่สโลปปลายพุ่ง ละมุนทุกองศา!

         สวัสดีครับ วันนี้หมอวีมาพร้อมกับเคสรีวิวแก้จมูกจากคนไข้สาวสวย “คุณเอมมี่” ที่ต้องการเอาซิลิโคนที่เคยเสริมจมูกมาแล้ว 10 ปีออก เคสนี่เป็นอีกหนึ่งเคสที่น่าสนใจมากครับ เนื่องจากคนไข้มีเนื้อปลายจมูกที่ค่อนข้างตึง สันจมูกดูแข็งทื่อไม่เป็นธรรมชาติ และไม่ได้มีปัญหาปลายจมูกบางหรือใกล้ทะลุ เพียงแต่ต้องการมาแก้จมูกเพื่อเปลี่ยนทรงจมูกดูละมุนมากขึ้น เดี๋ยวเรามาติดตามไปพร้อม ๆ กันนะครับว่าหลังแก้จมูกแล้ว จมูกใหม่และใบหน้าของคุณเอมมี่จะเปลี่ยนแปลงแค่ไหนครับ

          ส่วนมากแล้ว คนไข้ที่เข้ามาปรึกษาหมอเรื่องแก้จมูก จะมาด้วยเรื่องของผลข้างเคียงที่เกิดจากการทำจมูกครั้งก่อนหน้า ด้วยสาเหตุของความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่อาจมีไม่เพียงพอ ส่งผลต่อรูปทรงจมูก, วัสดุที่ใช้เสริมจมูกไม่ได้มาตรฐาน, การดูแลตัวเองที่ไม่ดีพอ ไม่ระมัดระวัง, การเกิดอุบัติเหตุจนทำให้เ้กิดการกระทบกระเทือนที่จมูก  หรือแม้แต่กรณีเสริมจมูกมานานแล้ว ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ แต่แค่อยากเปลี่ยนรูปทรงจมูกให้ดูดีกว่าเดิมเหมือนเคสคุณเอมมี่ในวันนี้ครับ

ทรงจมูกไม่สวย

          เนื่องจากการแก้ไขไม่ตรงจุด หรือออกแบบรูปทรงจมูกที่ไม่ตรงกับรูปหน้าของคนไข้ ยกตัวอย่างเช่น หากคนไข้มีโครงสร้างจมูกเดิมสั้น แต่แพทย์ไม่ได้ทำการปรับโครงสร้างจมูก ด้วยการใช้เทคนิคยืดจมูก ต่อให้เสริมจมูกด้วยซิลิโคนที่มีความโด่งแค่ไหนก็ออกมาไม่สวยครับ จมูกก็ยังคงสั้นเหมือนเดิม แถมยังเสี่ยงต่อการที่ซิลิโคนจะดันปลายจมูก จนอาจเสี่ยงจมูกทะลุในอนาคตจนต้องมาแก้จมูกภายหลังอีกด้วยครับ

ปลายจมูกใส แต่ไม่เจ็บ

ปลายจมูกใส แต่ไม่เจ็บ คนไข้มักจะละเลยและปล่อยไป เพราะคิดว่าไม่มีอาการเจ็บ อักเสบ หรือบวมแดง ก็ปล่อยทิ้งไว้ แต่ในความเป็นจริงปลายจมูกที่เริ่มบางใส เป็นสัญญาณว่าจมูกมีสิทธิ์ที่จะทะลุได้เมื่อไหร่ก็ได้ครับ ให้ลองเช็คตัวเองดูโดยการเงยหน้าส่องกับไฟ จะเห็นเนื้อปลายจมูกของเราบางใสจนเห็นเป็นตัวซิลิโคน พบได้บ่อยในกรณีที่เสริมจมูกตั้งแต่สันจมูกถึงปลายด้วยซิลิโคนแท่งเดียว โดยไม่มีการรองปลายจมูกจึงทำให้ซิลิโคนไหลลงมาดันปลายจมูกทำให้เนื้อบางใสครับ

ซิลิโคนลอย

ซิลิโคนลอยที่เกิดหลังเสริมจมูกมาจากสาเหตุหลัก ๆ ก็คือ การผ่าตัดการเสริมจมูกของแพทย์ เช่น แพทย์ไม่ได้ทำการปรับโครงสร้างจมูกเดิมก่อนเสริมจมูก อย่างในรายที่มีฮัมพ์และไม่ได้ทำการตะไบลดความนูนของสันจมูกก่อน จึงทำให้เมื่อใส่ซิลิโคนแล้วไม่แนบกับฐานจมูก ซึ่งส่งผลให้ซิลิโคนลอย ซิลิโคนเคลื่อนตัวได้อิสระ สังเกตจากเวลาเราเอานิ้วชี้กดที่สันจมูก แล้วลองขยับไปมาซ้ายขวาจะเห็นว่าซิลิโคนเคลื่อนตัวไปมาครับ โดยถ้าหากคนไข้มีอาการข้างเคียงร่วมด้วย เช่น อาการอักเสบ บวมแดง หรือติดเชื้อ จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อทำการแก้จมูกครับ แต่ถึงหากไม่มีอาการข้างเคียง ไม่เจ็บ ไม่บวม แต่แค่มีความกังวลก็สามารถเข้ามาปรึกษาหมอเพื่อทำการแก้จมูกได้ครับ

รูจมูกไม่เท่ากัน

รูจมูกไม่เท่ากันที่เกิดขึ้นจากการเสริมจมูก เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หมอมักจะพบได้บ่อยเช่นเดียวกันครับ ซึ่งสาเหตุเกิดจากเปิดแผลและเย็บแผลไม่สมมาตรกัน, การตัดเนื้อปีกจมูกไม่เท่ากัน, ซิลิโคนเสริมจมูกทะลุอยู่ภายในจมูก, เสริมจมูกแล้วเบี้ยวเอียง หรือกระดูกอ่อนที่ปลายจมูกได้รับความเสียหายจากการเสริมจมูกครับ

เคยฉีดสารเหลว ร้อยไหมจมูก ไม่ได้ทรงจมูกตามที่ต้องการ

           การฉีดสารเหลวและการร้อยไหมเสริมจมูก เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดที่หลาย ๆ ท่านชื่นชอบก็จริงครับ แต่การเสริมจมูกด้วยวิธีนี้ไม่ได้ทำให้รูปทรงจมูกสวยและถาวรเหมือนการผ่าตัดเสริมจมูกครับ จนท้ายที่สุดก็ไม่สามารถตอบโจทย์ของคนไข้ได้ จนต้องมาปรึกษาหมอเพื่อแก้จมูกและทำการเสริมจมูกโอเพ่น

          คุณเอมมี่มาปรึกษาเรื่องแก้จมูกที่ Amara Clinic เนื่องจากเคยเสริมจมูกมาแล้วกว่า 10 ปี เป็นการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนแท่งเดียวรูปตัว I ครับ โดยไม่มีการเสริมปลายจมูกเลย และทำแบบเทคนิคเสริมจมูกแบบ Close ธรรมดา การเสริมจมูกมาเป็นเวลานับสิบปี แน่นอนครับว่าในสมัยก่อนเทคนิคเสริมจมูกยังมีไม่มาก ไม่ค่อยทันสมัย หรือไม่ค่อยมีตัวเลือกเรื่องวัสดุเสริมจมูกให้คนไข้มากนักครับ รูปทรงจมูกก็จะเป็นแบบแข็งทื่อ ไม่มีสโลปตรงสัน ไม่ละมุนเป็นธรรมชาติ สันจมูกโด่งก็จริงแต่แพทย์ในสมัยนั้นอาจยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับการออกแบบรูปทรงจมูกที่มีความเป็นธรรมชาติเหมือนในสมัยนี้ครับ 

          วันที่คุณเอมมี่เข้ามาพูดคุยและปรึกษาหาแนวทางการรักษากับหมอ หมอได้มีการซักประวัติกาเสริมจมูก ว่าเสริมด้วยวัสดุอะไร เทคนิคแบบไหน รวมไปถึงตรวจวิเคราะห์โครงสร้างจมูกเดิมของคุณเอมมี่ครับ เมื่อหมอได้ตรวจดูก็พบว่า บริเวณสันจมูกมีความแข็งทื่อ ไม่ได้มีการเหลาซิลิโคนให้มีรูปทรงสโลป และเป็นแท่งซิลิโคนที่มีแต่การเสริมตรงสันจมูกเท่านั้น ไม่ได้มีการเสริมปลายจมูกใด ๆ ปลายจมูกจึงตกลงมา ไม่พุ่ง โดยรวมแล้วดูไม่เป็นธรรมชาติ ไม่เข้ากับรูปหน้าของคุณเอมมี่เลยครับ

วางแผนการแก้จมูก เคสคุณเอมมี่

• แก้จมูกด้วยเทคนิคเสริมจมูกโอเพ่น เพื่อการปรับโครงสร้างจมูกภายในได้สะดวกยิ่งขึ้น
• เทคนิคเสริมจมูกซี่โครง ไร้ซิลิโคน เป็นเทคนิคที่ใช้กระดูกอ่อนซี่โครงของคนไข้เองในการเพิ่มสันและยืดปลายจมูกให้โด่งและปลายพุ่ง 
• แก้จมูกโดยการเหลาซิลิโคนให้สันจมูกมีความสโลป (มีความโค้งสโลปตั้งแต่หัวตาไปจนถึงปลายจมูก)
• เสริมจมูกโอเพ่นโดยการใช้ยาชาเฉพาะที่ร่วมกับการวางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์วิชาชีพ

เสริมจมูกซี่โครง ไร้ซิลิโคน ปลายพุ่ง เพิ่มความแข็งแรงให้โครงสร้างจมูก

          สาเหตุที่หมอแนะนำให้คุณเอมมี่เสริมจมูกซี่โครง (Rib Cartilage) นั่นก็เพราะว่า เนื้อปลายจมูกคุณเอมมี่ค่อนข้างบางและตึงครับ จึงต้องปรับโครงสร้างด้วยการเพิ่มความสูงของสันจมูกและยืดปลายให้สูงพุ่งด้วยการใช้กระดูกอ่อนซี่โครงของคนไข้เอง ซึ่งเป็นเทคนิคที่ไร้ซิลิโคน นี้จะช่วยทำให้โครงสร้างจมูกมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น จมูกใหม่ที่เสริมมาก็จะอยู่กับเราไปได้นาน ๆ ที่สำคัญคือ เป็นกระดูกอ่อนของคนไข้เองจึงมีความปลอดภัยทั้งในระยะสั้นและระยะยาวครับ สำหรับกระดูกอ่อนซี่โครงที่นำมาใช้เสริมจมูกซี่โครงนั้น มักจะเป็นกระดูกอ่อนซี่โครงชิ้นที่ 5 ถึง 7 เนื่องจากมีรูปทรงตรงที่เหมาะสมกับโครงสร้างจมูกที่สุดนั่นเองครับ

          หมอจะลองเปรียบเทียบให้เห็นภาพกันได้ชัด ๆ นะครับ โครงสร้างจมูกเราก็เหมือนกับเสาบ้าน ถ้าโครงสร้างไม่ดีบ้านก็จะพังและถล่มลงมาครับ จมูกเราก็ต้องปรับโครงสร้างจมูกให้แข็งแรงเช่นเดียวกัน จึงจะทำให้จมูกใหม่อยู่กับเราไปได้นาน ๆ ไม่เสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง และไม่เสี่ยงทะลุในอนาคตครับ

          หากเป็นกรณีที่คนไข้มีเนื้อจมูกน้อย เนื้อจมูกบาง หรือเคสแก้จมูก หมอจะแนะนำให้เสริมจมูกแบบปรับโครงสร้าง หลีกเลี่ยงการเสริมจมูกที่สันและปลายจมูกด้วยซิลิโคนแท่งเดียว เพราะมีโอกาสที่ซิลิโคนจะดันเนื้อปลายจมูกจนทำให้จมูกทะลุครับ ซึ่งในสมัยนี้ก็มีวัสดุทางเลือกต่าง ๆ ที่นำมาใช้เสริมจมูกให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อาทิ กระดูกอ่อนหลังใบหู, กระดูกอ่อนซี่โครง หรือเนื้อเยื่อก้นกบ ที่สามารถนำมาใช้เสริมจมูกควบคู่กับการใช้ซิลิโคน หรือจะใช้เสริมจมูกแบบไร้ซิลิโคนก็ได้เลยครับ

          ผลลัพธ์ที่ได้คือ เมื่อจมูกรัดแกนเข้าที่ดีแล้ว กระดูกอ่อนซี่โครงจะผสานกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างจมูกและมีความแข็งแรงอยู่กับเราไปได้ตลอด รูปทรงจมูกเป็นธรรมชาติ ไม่หลอกตา มีความปลอดภัยสูง ไม่เสี่ยงที่จมูกจะทะลุจากการเสริมซิลิโคนเพียงอย่างเดียวตลอดทั้งแท่งครับ

• วาดดีไซน์รูปทรงจมูกที่ต้องการใหม่ 
• วางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
• เมื่อยาสลบออกฤทธิ์ ศัลยแพทย์ทำการเปิดแผลใต้ราวนมยาว 3-4 เซนติเมตร และผ่าตัดเลาะเอากระดูกอ่อนซี่โครงความยาวไม่เกิน 5 เซนติเมตร
• ทำการตกแต่งกระดูกอ่อนซี่โครงให้มีขนาดและรูปทรงที่เหมาะสมตามที่ได้วางแผนการรักษาไว้
• ศัลแพทย์ทำการเปิดแผลแบบเสริมจมูกโอเพ่นที่ฐานจมูกทั้ง 2 ข้าง จากนั้นแยกเนื้อจมูกออก
• นำซิลิโคนแท่งเก่าออก พร้อมเลาะพังผืดออก
• จากนั้นนำกระดูกอ่อนซี่โครงที่มีการตัดแต่งให้รูปทรงที่สวยงามแล้วมาเสริมจมูกซี่โครง
• เย็บแผลให้สวยงาม และเข้าเฝือกจมูก

ซิลิโคนเก่ารูปตัว I ไม่มีการเสริมปลายจมูก
ไม่มีการเหลาให้สโลป จมูกจึงดูแข็งทื่อ ไม่ละมุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

•  เสริมจมูกบวมกี่วัน เตรียมข้อมูลให้พร้อม!

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี

          หลังแก้จมูกด้วยเทคนิคเปิดแผลแบบการเสริมจมูกโอเพ่น และเป็นการเสริมจมูกซี่โครง ไร้ซิลิโคน คุณเอมมี่ได้เข้ามา Follow up จะเห็นได้ชัดเลยครับว่าจมูกดูละมุนมากขึ้น มองด้านข้างจะเห็นสันจมูกสโลปไล่ระดับมาถึงปลายจมูก ได้สัดส่วนที่เหมาะสมเข้ากับรูปหน้ามากยิ่งขึ้น รวมไปถึงมุมเสยที่ปลายจมูก รูจมูกเป็นวงรีตั้งเข้าหากันสวย มีความเป็นธรรมชาติมากครับ คุณเอมมี่บอกกับหมอว่าตอนนี้ชอบถ่ายรูปมาก คนรอบข้างก็ถามว่าไปทำอะไรมา หน้าเปลี่ยนไป ดูละมุนขึ้นมาก 

          ตอนนี้คุณเอมมี่แก้จมูกมาได้เดือนกว่า ๆ แล้วจมูกอาจยังไม่รัดแกน รูปทรงจมูกยังดูใหญ่อยู่ซึ่งเป็นเรื่องปกติครับ แต่หลังจากนี้ประมาณ 6-12 เดือน จมูกจะรัดแกนและได้รูปสวยยิ่งกว่านี้แน่นอนครับ