“ตัดหน้าอก” ลดส่วนเกินเพิ่มความเฟิร์มในครั้งเดียว

สำหรับสาว ๆ แล้ว การมีหน้าอกใหญ่สักนิดนับว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกพึงพอใจกันใช่ไหมครับ แต่ในทางกลับกันถ้าเป็นผู้ชายแล้วมีหน้าอกใหญ่ ใส่เสื้อตัวไหนนมก็ตั้งเป็นเต้า มีปัญหาเรื่องนมแหลมยื่น ผู้ชายส่วนใหญ่ที่มีปัญหานี้ไม่ได้มองว่ามันเป็นเรื่องที่น่ายินดีหรือพึงพอใจเลยครับ เช่นเดียวกันกับคุณพลคนไข้ของหมอเคสนี้ ที่ได้ตัดสินใจเข้ามาผ่าตัดหน้าอกส่วนเกินออกไปที่ Amara Clinic นี่เอง ต้องบอกก่อนนะครับว่าสาเหตุที่ทำให้หนุ่ม ๆ มีปัญหาเต้านมโตนั้นเกิดได้จากหลายอย่าง วิธีการรักษาก็มีหลายแบบ ก่อนที่จะไปดูรีวิวตัดหน้าอกเคสคุณพล เรามาทำความรู้จักกับหน้าอกส่วนเกินนี้กันก่อนดีกว่า

ผู้ชายมีนมหน้าอกโตมีจริงนะครับ อาจจะเกิดได้จากกรรมพันธุ์, การที่มีฮอร์โมนเพศหญิงมากเกินไป, โครโมโซมผิดปกติ และพฤติกรรมการกินของแต่ละคน ซึ่งมันจะส่งผลทำให้เกิดเป็นเต้านมขึ้นมา เต้านมที่ใหญ่ขึ้นพบได้จาก 3 กรณีนี้ 

1. ต่อมน้ำนมเติบโตผิดปกติ (Gynecomastia) ปกติต่อมน้ำนมผู้ชายจะมีขนาดเล็ก แต่การใช้ยาบางอย่างหรือกรรมพันธุ์จะกระตุ้นให้เรามีฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มขึ้น จึงทำให้ต่อมน้ำนมมันใหญ่ขึ้นมานั่นเอง
2. ไขมันส่วนเกินสะสมที่เต้านม (Pseudo-gynecomastia) หนุ่ม ๆ ที่มีน้ำหนักตัวเยอะหรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วน จะมีการสะสมของไขมันทั่วร่างกาย ซึ่งบริเวณหน้าอกก็เป็นตำแหน่งนึงที่ไขมันเข้าไปอาศัยอยู่
3. ต่อมน้ำนมโตและไขมันเยอะ (Mixed Type Gynecomastia) ผู้ชายมีนมบางคนอาจจะมีหน้าอกใหญ่จากสองสาเหตุด้านบนร่วมกันได้

ตัวอย่างผู้ชายที่มีหน้าอกโตทั้ง 3 กรณี

คุณพลคนไข้เคสผ่าตัดหน้าอกภูเก็ตของหมอเคสนี้ อายุ 39 ปี (น้ำหนัก 85 กิโลกรัม / ส่วนสูง 169 เซ็นติเมตร / BMI 29.7) มีอาชีพเป็นนักเพาะกาย จึงมีช่วงนึงที่ต้องใช้สารสเตียรอยด์เพื่อหวังให้กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้น แน่นอนว่ามันมีผลข้างเคียงกระตุ้นให้ต่อมน้ำนมมันโตขึ้นอย่างผิดปกติ อีกทั้งคุณพลยังเป็นคนอ้วนง่ายอีกด้วย (ก่อนหน้านี้น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว)

ภาพคุณพลก่อนผ่าตัดหน้าอก

ก่อนเข้ารับการผ่าตัดที่ต้องวางยาสลบ คนไข้ทุกคนจะต้องมีการเตรียมตัวตามที่หมอแนะนำเป็นอย่างดี เพราะช่วงที่คนไข้สลบนั้น ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายจะทำงานน้อยลง แต่ในบางครั้งอาจมีภาวะผิดปกติเกิดขึ้นได้ อาทิการสำลักเป็นต้น การคนไข้ดื่มน้ำหรือกินอาหารมาก่อน อาจจะทำให้สิ่งเหล่านี้เข้าไปอุดกั้นทางเดินหายใจหรือหลอดลมได้ อาจจะเสียชีวิตได้เลยนะครับ แม้แต่การสูบบุหรี่ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายระหว่างผ่าตัดด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ การที่เรานอนพักผ่อนน้อย มันจะส่งผลให้เรามีอาการเมายาสลบเยอะมากขึ้นด้วยนะ

• งดน้ำและอาหารทุกชนิดอย่างน้อย 8 ชม.
• งดสูบบุหรี่ทุกชนิดก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 8 ชม.
• นอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชม.
• ไม่ทาครีมบำรุงใด ๆ บนใบหน้า
• สวมเสื้อผ้าที่ถอด-ใส่ง่าย มีสีเข้มหรือเสื้อตัวเก่า
• แนะนำให้พาญาติมาด้วย 1 คน เพื่อพาเดินทางกลับ

หมอประเมินรูปร่างของคุณพลแล้ว พบว่าขนาดของเต้านมส่วนเกินนั้นมีขนาดใหญ่มาก ๆ และเป็นต่อมน้ำนมส่วนเกินล้วน ๆ (Gynecomastia) จึงใช้วิธีการแผลรอบปานนม และตัดต่อมน้ำนมส่วนเกินออกมา ขนาดของเต้านมส่วนเกินข้างซ้ายคือ 78 กรัม และข้างขวาคือ 74 กรัมครับ (สำหรับเคสไหนที่มีไขมันหน้าอกเยอะ หมอจะไม่ผ่าตัดเอาไขมันออกมาแบบนี้นะครับ หมอจะเปิดแผลเล็ก ๆ ข้างเต้านมและดูดไขมันหน้าอกออกมาแทน)

หมอลืมบอกไปครับว่าเคสผ่าตัดแบบนี้ หมอจะแนะนำให้วางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์นะครับ เนื่องจากว่ามันจะมีความเจ็บเกิดขึ้นระหว่างผ่าตัดสูง มีการเสียเลือดได้บ้าง การวางยาสลบจึงเหมาะสมที่สุด ใครที่กังวลเรื่องความปลอดภัยอยู่ไม่ต้องห่วงเลยครับ เพราะทางคลินิกมีวิสัญญีแพทย์ดูแลตลอดการผ่าตัดแบบ 1:1 (วิสัญญีแพทย์ 1 คน : คนไข้ 1 คน) ภายใต้ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อมาตรฐานโรงพยาบาลเอกชน

มาดูผลลัพธ์หรือรีวิวตัดหน้าอกเคสของคุณพลกันครับ จะเห็นได้ว่าหน้าอกแบนราบลงและมีขนาดเล็กลงกว่าเดิมมาก ไม่มีเต้านมห้อยลงมาทำให้ดูอ้วนและดูไม่เฟิร์มอีกแล้ว รูปร่างส่วนอื่น ๆ ของคุณพลมีความเฟิร์มกระชับและลีนอยู่แล้ว พอหน้าอกมันมีความเฟิร์มด้วย เรียกได้ว่าตอนนี้ Perfect เลยนะครับ

จริง ๆ แล้วคุณพลมีแพลนจะลงประกวดเพาะกายในปีหน้า ตอนแรกคุณพลก็กังวลครับว่าจะหายทันไหม พักฟื้นนานแค่ไหน และยังกังวลเรื่องรอยแผลผ่าตัดหน้าอกด้วย หมอจึงอธิบายไปว่าการเปิดแผลที่รอบปานนมถือเป็นการซ่อนแผลไปในตัว มองเห็นได้ยาก และหมอยังมีเทคนิคการผ่าตัดที่จะทำให้คนไข้เสียเลือดน้อยที่สุดอยู่ครับ ตรงนี้จะส่งผลให้คนไข้เจ็บน้อย มีอาการระบมช้ำน้อย และใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นาน หากคุณพลมีการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดที่ดีด้วย หมอรับรองเลยว่าใช้เวลาไม่นานก็เข้าที่ดีแล้วครับ