การดูดไขมัน คืออะไร ?
การดูดไขมัน (Liposuction) คือ การผ่าตัดเพื่อนำเอาไขมันส่วนเกินในชั้นใต้ผิวหนังออกมา เป็นการผ่าตัดเล็กชนิดหนึ่ง โดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์ อย่างเช่น ท่อดูดไขมัน (Cannular) สอดเข้าไปในบริเวณที่ต้องการลดสัดส่วนและทำการดูดออกมา ซึ่งระหว่างกระบวนการนี้ แต่ละสถานพยาบาลอาจมีการใช้เทคนิค, วิธีการ, เครื่องมือที่ใช้ ที่แตกต่างกันออกไป

เลือกอ่าน ตามหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่


ดูดไขมัน คือ ทางเลือกของการลดสัดส่วนให้เข้าที่ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องสรีระ
ข้อดีของการดูดไขมัน
- ลดระยะเวลาในการลดสัดส่วน, กำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมในร่างกาย (อย่างเช่น หลายเคสมีการออกกำลังกาย แต่สัดส่วนไม่ลดลง หรือสัดส่วนลดลงแต่ไม่ใช่ในบริเวณที่ต้องการ)
- ปรับ/ลดสัดส่วนได้อย่างตรงจุด ตรงตำแหน่ง ตามบริเวณที่เกิดปัญหา (อาทิ แก้ปัญหาขาใหญ่, พุงป่อง, แขนล่ำ ฯ)
- Size เล็กลง ทำให้สวมใส่เสื้อผ้าไซซ์เล็กลง มั่นใจในการแต่งตัวได้มากขึ้น
- สร้างแรงบันดาลใจในการดูแลสัดส่วน เพื่อให้รูปร่างดีขึ้น
- มั่นใจในตัวเองได้มากขึ้น
ข้อเสียของการดูดไขมัน
- การดูดไขมัน ไม่ได้ช่วยให้สุขภาพดีขึ้นในทางตรง (แต่สามารถช่วยได้ในทางอ้อม หากคนไข้ได้แรงบันดาลใจจากการที่สัดส่วนเล็กลง และดูแลตัวเองต่อ)
- ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นร่างกาย เนื่องจากชเป็นการผ่าตัดเล็กชนิดหนึ่ง จึงมีการบวมช้ำเกิดขึ้นได้
- เกิดรอยแผล (รอยดำ, รอยแดง) จากการเปิดจุดในการสอดท่อดูดไขมันเข้าไปในร่างกาย (สามารถใช้การเลเซอร์ลดรอยแผลได้ แต่ต้องใช้เวลา)
- อาจเกิดปัญหา แผลคีลอยด์, ผิวเป็นคลื่น, ผิวย้วยหลังดูดไขมัน ขึ้นได้ (ขึ้นกับสภาพร่างกายในแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะประเมินการรักษาและให้ข้อมูลคนไข้เพิ่มเติมก่อนทุกครั้ง)
*คนไข้ต้องดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
ตำแหน่งในการดูดไขมัน

- ดูดไขมันแขน
- ดูดไขมันหน้าท้องบน-ล่าง
- ดูดไขมันเอวเอส
- ดูดไขมันต้นขาด้านใน
- ดูดไขมันต้นขาด้านนอก
- ดูดไขมันน่อง
- ดูดไขมันปีกบนเสื้อใน
- ดูดไขมันปีกใต้เสื้อใน
- ดูดไขมันสะโพก
- ดูดไขมันหัวเข่า (เนื้อรอบหัวเข่า)
- ดูดไขมันข้อเท้า (เนื้อบริเวณข้อเท้า)
- ดูดไขมันนมน้อย
ขั้นตอนในการดูดไขมัน
ก่อนวันดูดไขมัน
-
- นัดหมายคิวเข้าพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์ประเมินปัญหาของสัดส่วน, ความกังวลที่เกิดขึ้นกับคนไข้ และจะได้ประเมินตำแหน่ง, เทคนิค-เครื่องมือที่เลือกใช้ และนัดหมายวัน
- เตรียมตัวตามคำแนะนำของแพทย์ (โดยเฉพาะ เคสที่มีการวางยาสลบ ต้องทำการเตรียมตัวก่อนการวางยาสลบตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด)
วันดูดไขมัน
-
- แพทย์ทำการวาด (Marking) จุด/บริเวณตำแหน่งที่จะดูดไขมัน
- แพทย์ให้ยาฆ่าเชื้อ (ฉีด/ทาน)
- ขัดผิวด้วยยาฆ่าเชื้อ เพื่อทำความสะอาดร่างกาย/บริเวณที่จะดูดไขมัน
- *สำหรับเคสที่วางยาสลบ วิสัญญีแพทย์จะมีการสอบถามคนไข้ก่อนการเริ่มขั้นตอน
- ในการเริ่ม แพทย์จะเริ่มทำการใส่ Tumescent (ตัวยาที่ประกอบด้วย ยาชา, น้ำเกลือ, ยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัว และตัวยาอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก/สถานพยาบาล)
- เริ่มเปิดแผลผ่าตัด และดูดไขมันออก โดยใช้เทคนิค, วิธีการ, เครื่องดูดไขมัน ตามความเหมาะสมของแต่ละเคส อาทิ การเลือกใช้เครื่องพลังอัลตร้าซาวด์ (Ultra Z) ในเคสที่คนไข้ไม่ได้ต้องการนำไขมันไปใช้ต่อ (ดูดทิ้ง), การเลือกใช้เครื่องพลังน้ำ (body-jet) กับเคสที่ต้องการนำไขมันไปเติมต่อ เป็นต้น
- หลังจากเสร็จการดูด แพทย์จะทำการเย็บแผล และทำการทำความสะอาดผิวบริเวณนั้น
- แพทย์จะอธิบายสิ่งที่ต้องเจอหลังดูดไขมัน พร้อมวิธีการดูแลตัวเองให้คนไข้อีกครั้ง
- คนไข้พักผ่อน ก่อนเดินทางกลับบ้าน




สิ่งที่ต้องเจอหลังการดูดไขมัน
หลังจากการดูดไขมัน จะสามารถเกิดอาการต่าง ๆ ขึ้นได้ ซึ่งจะเกิดขึ้นมากหรือน้อย ขึ้นกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล, เทคนิคของแพทย์, เครื่องมือที่ใช้, ปริมาณไขมันที่ดูดออกมาได้, วิธีระงับความเจ็บปวด เป็นต้น สำหรับอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ มีดังนี้
- อาการปวด
เนื่องจากการดูดไขมันเป็นการเซาะไขมันที่แพ็กตัวติดกันแน่นในชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้มีการกระทบเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง และเกิดการบาดเจ็บ จึงสามารถเกิดอาการปวดขึ้นได้ โดยอากการปวด จะคล้ายกับการออกกำลังกายมาอย่างหนัก อย่างเช่น กรณีที่มีการดูดไขมันหน้าท้อง ก็จะมีการปวดคล้ายอาการหลังการ Sit-up มาเยอะ ๆ เป็นต้น โดยคนไข้สามารถทานยาแก้ปวดที่ทางคลินิกจัดเตรียมไว้เพื่อบรรเทาอาการได้ ซึ่ง ระยะเวลาในการปวดจะแตกต่างกันในไปแต่ละบุคคล ขึ้นกับสภาพร่างกาย และเครื่องที่เลือกใช้ด้วย- เครื่องพลังน้ำ (body-jet) : จะมีอาการปวดในช่วง 1-2 วันแรก และจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ
- เครื่องพลังอัลตร้าซาวด์ (Ultra Z) : จะมีอาการปวดในช่วง 5-7 วัน หลังทำการดูดไขมัน และจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ
- อาการวิงเวียนศีรษะ, หน้ามืด
อาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้จาก 2 ปัจจัย ได้แก่
1. การสูญเสียน้ำในร่างกายขณะดูดไขมัน
2. ผลข้างเคียงจากยาชาที่แพทย์ใส่เข้าไปเพื่อระงับความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้น
ดังนั้น จึงแนะนำให้คนไข้ดื่มน้ำในปริมาณมาก เพื่อทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไป และเพื่อให้ร่างกายขับยาที่เหลือในร่างกายออกมาในรูปแบบปัสสาวะ ซึ่งอาการวิงเวียนศีรษะนี้ สามารถหายได้ใน 24 ชั่วโมงแรก - อาการบวม
มีด้วยกัน 2 แบบ- อาการบวมจากการบวมน้ำ
สามารถเกิดขึ้นได้เนื่องจากในการดูดไขมัน แพทย์จะมีการใส่ Tumescent เข้าไป ซึ่งเป็น ทำให้ร่างกายบวมจากการที่มีน้ำอยู่ภายใน โดยคนไข้ที่ดูดด้วยเครื่องพลังน้ำ (body-jet) จะมีอาการบวมมากกว่าคนไข้ที่ดูดด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์ (Ultra Z) โดยจะบวมมากในช่วง 3 วันแรก หลังจากนั้นในช่วง 3-7 วันน้ำจะทยอยซึมออกจากแผล, ถูกดูดซึมเข้าเส้นเลือด, ขับออกทางปัสสาวะ - อาการบวมจากการอักเสบ
จะเกิดขึ้นหลังจากช่วงที่ร่างกายค่อย ๆ หายจากอาการบวมน้ำ โดยคนที่ดูดไขมันด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์ สัดส่วนจะลดลงทันทีตั้งแต่ช่วง 1-3 วันแรกหลังดูดไขมัน เนื่องจากมีน้ำตกค้างภายใต้ผิวหนังน้อยมาก แต่จะมีการอักเสบภายในมากกว่าคนที่ดูดไขมันด้วยเครื่องพลังน้ำ
*ทั้งนี้ที่ Amara Clinic เรามียาลดบวมให้คนไข้กลับไปรับประทาน และมีบริการฉายแสง LED เพื่อช่วยลดบวม, ลดอาการอักเสบใต้ผิว ให้คนไข้ด้วยค่ะ
- อาการบวมจากการบวมน้ำ
- รอยช้ำม่วง, ช้ำเขียว
ในระยะแรก รอยช้ำจะเป็นสีม่วงแดง สามารถเกิดขึ้นได้เนื่องจากมีเม็ดเลือดไปกองในบริเวณนั้นมาก และจะค่อย ๆ กลายเป็นสีเขียวปนเหลืองจาง ๆ และหายไปในที่สุด ซึ่งการลดความช้ำนั้น หลักการคือ ทำให้ลิ่มเลือดจางลง สามารถทำได้โดยการประคบหลังดูดไขมัน (ประคบเย็นในช่วง 1-3 วันแรก และประคบร้อนในช่วงหลังจากดูดไขมันเกิน 3 วัน) และที่สำคัญคือ การใส่ชุดกระชับอย่างถูกวิธี ตามคำแนะนำของแพทย์


Checklist ... ถึงเวลาที่เราควรดูดไขมันหรือยัง ?

เชื่อว่า หลายคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ ไม่มากก็น้อย ต้องมีความรู้สึก “อยากหุ่นสวย” อย่างแน่นอน และกำลังมองหาวิธีลดสัดส่วนที่เหมาะกับตัวเอง
ถ้าใครที่กำลังสนใจ “การดูดไขมัน” อยู่ แต่ยังลังเลอยู่ว่า … ดูดไขมันดีไหม … ลองมาดูกันว่า 1-7 ข้อนี้ มีข้อที่ตรงกับปัญหาของเราหรือไม่ … ถ้าใช่ … การดูดไขมัน อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้แน่นอน

- เริ่มใส่เสื้อผ้าไซซ์เดิมไม่ได้แล้ว หรือ ใส่แล้วเริ่มแน่นขึ้นมาก
- ออกกำลังกายแล้วสัดส่วนไม่ลด
- อึดอัดเวลานั่ง เนื่องจากพุงพับ พุงปลิ้น
- เดินแล้วรู้สึกได้ว่าขาเบียด แน่น
- Selfie แล้วเหนียงโผล่ หามุมหลบไม่ได้แล้ว
- สัดส่วนไม่ Balance กัน
- อยากให้สัดส่วนเป๊ะ เข้าที่มากขึ้นกว่าเดิม

ลงทะเบียนปรึกษาดูดไขมัน ฟรี
ดูดไขมันที่ Amara Clinic
- แพทย์มีความเชี่ยวชาญ
ทีมแพทย์ที่ Amara Clinic นำโดยคุณหมอมะปราง คุณหมอไอซ์ (อาจารย์แพทย์ด้านการสอนการดูดไขมันเติมไขมันด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ) มีความเชี่ยวชาญด้านการดูดไขมัน, เติมไขมัน และการยกกระชับ ด้วยประสบการณ์มากกว่าหลายพันเคส - มีเครื่องให้เลือกหลายชนิด
ที่เอมาร่าคลินิก เรามีทั้ง เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ (body-jet), เครื่องดูดไขมันพลังอัลตร้าซาวด์ (Ultra Z) และมีเครื่องยกกระชับผิวหนัง J Plasma ซึ่งแต่ละเครื่อง คุณหมอจะแนะนำตามความเหมาะสมและความต้องการของคนไข้ อย่างเช่น ถ้าต้องการเติมไขมันหน้าอก จะต้องเป็นการเลือกใช้เครื่อง body-jet เพื่อให้ได้ไขมันที่มีคุณภาพที่ดีและเหมาะสมในการนำมาเติมสัดส่วนอื่นต่อ - ประเมินแบบ Case by Case
วางแผนอย่างเหมาะสม โดยประเมินตามความต้องการของคนไข้ เพื่อแก้ปัญหาในบริเวณสัดส่วนที่กังวล - ยึดมั่นเรื่องมาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย
ทุกกระบวนการมีการทำความสะอาดตามมาตรฐานขั้นตอน และเลือกใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของทุกเคสที่เข้ารับบริการ - บริการทุกเคสด้วยใจ
เราดูแลทุกเคสตั้งแต่ก่อนรับบริการ จนถึงหลังการรับบริการ พร้อมมีคำแนะนำและแหล่งข้อมูลความรู้ให้ครบถ้วน - After Care Program
ดูแลเป็นอย่างดีด้วยโปรแกรม After Care ที่ช่วยดูแลและติดตามอาการ/ผลลัพธ์หลังจากการดูดไขมัน อาทิ ฉายแสง LED เพื่อลดบวม ลดอักเสบ, เลเซอร์ลดรอยดำ-รอยแดง, ฉีดลดคีลอยด์ (ในกรณที่เกิดแผลคีลอยด์), นวดกระชับ RF เพื่อสลายไขมันและกระชับสัดส่วนให้เข้าที่ เป็นต้น - สถานที่เดินทางสะดวก
Amara Clinic มีด้วยกัน 2 สาขา รัชโยธิน และ ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ สามารถมองเห็นได้ง่าย มีที่จอดรถรองรับผู้เข้าใช้บริการ (สำหรับสาขารัชโยธิน สามารถเดินทางมาลงที่ BTS สถานีรัชโยธิน ได้เลย)
บทความน่ารู้
เลือกคลินิกดูดไขมันอย่างไร ให้ปลอดภัยได้มาตรฐาน อยากรู้ อ่านบทความนี้ได้เลย
ทำความรู้จักกับเครื่องดูดไขมันชนิดต่าง ๆ ได้ที่นี่
ดูดไขมันอันตรายไหม ? ถ้ากำลังสงสัย ต้องอ่านบทความนี้
ดูดไขมันดีไหม ? ใช่ทางเลือกของเราไหมนะ ? อยากรู้ ต้องลองมาอ่านที่นี่
