ดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันเอวเอส เพิ่มความมั่นใจ
คุณอั้มเป็นคนที่ชอบทานของหวานมาก เมื่อก่อนทานเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน พออายุเยอะขึ้น แต่การกินของคุณอั้มเหมือนเดิม ทำให้เป็นคนตัวเล็ก แต่มีไขมันสะสมเยอะ ทั้งบริเวณหน้าท้อง และ ต้นขา เวลาใส่กางเกงเอวสูงก็จะติดหน้าท้อง นั่งทีไร พุงพับเป็นชั้น ๆ ทุกที เลยรู้สึกว่าตอนนี้มีหน้าท้องเยอะเกินไป จนต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว!
คุณอั้มได้ออกกำลังกายมา 2 ปี แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าหน้าท้องจะหายไปเลย ยังไงก็ยังมีหน้าท้องอยู่ดี เลยเลือกที่จะจ้างเทรนเนอร์มา แต่เทรนเนอร์บอกว่าต้องมีการควบคุมอาหารด้วย ซึ่งการควบคุมอาหารนี้เป็นเรื่องยากสำหรับคุณอั้ม เพราะไลฟ์สไตล์ของคุณอั้ม เป็นคนที่ทานอาหารไม่ตรงเวลา หิวเมื่อไหร่ก็กินตอนนั้น คุณอั้มเลยลองหาวิธีอื่น ๆ จึงมารู้จักกับการดูดไขมัน
รายละเอียดของเคสคุณอั้ม
⚪️ อายุ 27 ปี
⚪️ น้ำหนัก 49 kg
⚪️ ส่วนสูง 160 cm
⚪️ BMI 19.14 (S)
😰 หน้าท้องยื่น ไม่มั่นใจ
😰 พุงพับ พุงปลิ้น
😰 มีห่วงยางรอบเอว
การประเมินการรักษา
คุณอั้มได้เข้ามาปรึกษาคุณหมอท็อป ว่าต้องการดูดไขมันหน้าท้อง อยากให้หน้าท้องมีขนาดเล็กลง ไม่มีส่วนเกินปลิ้นออกมา ต้องการให้หน้าท้องแบนราบ และเห็นเอวเอสชัด ๆ ซึ่งคุณหมอท็อปได้ประเมิน พร้อมคุยความคาดหวังกับคุณอั้มแล้วว่า สามารถดูดไขมันออกมา แล้วทำให้หน้าท้องแบนราบได้ เพราะเป็นไขมันใต้ชั้นผิวหนังล้วน ๆ ควรดูดไขมันสองตำแหน่งคือ หน้าท้อง และเอวเอสปีกหลัง
การวางแผนดูดไขมัน
คุณอั้มต้องการกำจัดไขมันส่วนเกิน และต้องการให้รูปร่างดูเพรียวสวย ไม่ได้ต้องการนำเซลล์ไขมันที่ได้ไปเติมต่อ คุณหมอท็อปจึงเลือกใช้เครื่องดูดไขมัน Ultra Z (เครื่องดูดไขมันพลังงานความร้อน) ในการดูดไขมันหนาท้อง และดูดไขมันเอวเอส ปีกหลัง คุณอั้ม ซึ่งเครื่อง Ultra Z สามารถกำจัดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูดไขมันได้เยอะ และใช้เวลาไม่นาน
สรุปเคสดูดไขมัน คุณอั้ม
คุณอั้มดูดไขมันทั้งหมด 2 ตำแหน่ง ด้วยเครื่องดูดไขมันพลังคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ Ultra Z โดยเลือกแบบฉีดยาชา ทำให้อาจมีความรู้สึกเจ็บได้บ้างระหว่างดูดไขมัน คุณหมอท็อปใช้ระยะเวลาในการดูดไขมันประมาณ 2 ชั่วโมง มีแผลหลังทำประมาณ 4 มิลลิเมตร (ใช้เทคนิคซ่อนแผลตามขอบบิกินี)
⚪️ ดูดไขมันหน้าท้องบน-ล่าง
⚪️ ดูดไขมันเอวเอส-ปีกหลัง
ผลลัพธ์ของคุณอั้ม หลังดูดไขมันหน้าท้อง และ ดูดไขมันเอวเอส
ก่อนดูดไขมัน หลังดูดไขมัน หลังดูดไขมัน
(*การดูดไขมันที่ถูกต้อง ไม่ใช่การดูดไขมันออกมาให้ได้ปริมาณมากที่สุด แต่เป็นการดูดไขมันในปริมาณที่พอดี เหมาะสม กับสัดส่วนคนไข้คนนั้น ๆ ในส่วนของการออกแบบนั้น แพทย์จะเป็นคนออกแบบ ซึ่งจะใช้เทคนิคเฉพาะตัวของแต่ละคน การดูดไขมันออกมาในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังการดูดไขมันออกมาสวยที่สุด และไม่เกิดผลข้างแทรกซ้อน เช่นผิวไม่เรียบ ผิวเป็นคลื่น บุ๋ม หรือขรุขระเหมือนผิวส้ม)