สาวตัวเล็กไม่อ้วนใช่ว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องสัดส่วน อย่างเคสรีวิวดูดไขมันที่หมอกำลังจะมาบอกเล่ากันในวันนี้ “คุณโมเม” มองผ่าน ๆ ใคร ๆ อาจนึกแค่ว่า สาวตัวเล็กอย่างคุณโมเมจะมาปรึกษาดูดไขมันกับหมอทำไม? แต่ถ้ามองดูดี ๆ แล้ว สาวตัวเล็กก็มีไขมันสะสมได้เหมือนกันนะครับ อย่างคุณโมเมที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักขึ้นจนทำให้พุงปลิ้น ผอมแต่มีพุง รวมไปถึงไขมันสะสมที่ต้นขาทำให้มีปัญหาเรื่องขาเบียดอีกด้วยครับ เดี๋ยวเรามาดูการฏิวัติรูปร่างของสาวตัวเล็กที่อยากมีเอวเอสในเคสคุณโมเมกันนะครับว่า หลังดูดไขมันแล้ว หมอจะสามารถทำให้คุณโมเมกลับมามีรูปร่างที่สมส่วนได้มากน้อยแค่ไหนครับ
บอกก่อนเลยนะครับว่า คุณโมเมเป็นผู้หญิงที่ตัวค่อนข้างเล็ก มีส่วนสูงมาตรฐานหญิงไทย คือ ช่วง 160 – 171 เซนติเมตร รวมไปถึงมีน้ำหนักตัวที่อยู่ในเกณฑ์ปกติที่ได้จากการหาค่าดัชนีมวลกาย คือ ช่วงระหว่าง 18.60 – 22.90 ซึ่งถือว่าไม่มีปัญหาโรคอ้วน แต่กลับมีไขมันสะสมอยู่เฉพาะส่วน ตามหน้าท้อง เอว และต้นขาครับ
สัดส่วนก่อนดูดไขมัน
เคสคุณโมเม
- ส่วนสูง 165 เซนติเมตร
- น้ำหนักตัว 51.3 กิโลกรัม
- ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) 18.84
- วัดรอบหน้าท้องบน 68 เซนติเมตร
- วัดรอบหน้าท้องช่วงกลาง (สะดือ) 72 เซนติเมตร
- วัดรอบหน้าท้องช่วงล่าง 75 เซนติเมตร
- วัดรอบต้นขาซ้าย 47 เซนติเมตร
- วัดรอบต้นขาขวา 50 เซนติเมตร
อ้วนหรือผอม! แค่กรอกส่วนสูงและน้ำหนัก ได้ที่ BMI คืออะไร
พุงปลิ้น เอวหนา ขาเบียด ปัญหาที่คุณโมเมกังวล
คุณโมเมเล่าให้หมอฟังแบบนี้ครับว่า เดิมทีเป็นคนตัวเล็กครับ น้ำหนักก่อนหน้านี้คือ 47 กิโลกรัม แต่พอมาช่วงโควิดทำให้อยู่แต่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ทานเยอะขึ้น รวมไปถึงการกินจุกจิกตลอดทั้งวัน บวกกับเป็นคนที่ชอบทานอาหารเป็นบุฟเฟต์มาก ๆ เลยทำให้น้ำหนักเคยพุ่งไปอยู่ 56 กิโลกรัม จากนั้นก็พยายามควบคุมอาหาร โดยเลือกใช้วิธีลดน้ำหนักแบบนับแคลอรี่ เพียงไม่นานน้ำหนักก็ลงมาเหลือ 51 กิโลกรัม
แต่พอน้ำหนักลดลงแล้ว ก็ยังมีปัญหาไขมันเก่าที่สะสม เวลานั่งแล้วพุงปลิ้น ช่วงเอวหนาไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้ง กลายเป็นผอมแต่มีพุง นอกจานี้ยังมีปัญหาขาเบียด ทำให้เวลาเราเดินแล้วรู้สึกได้เลยว่าเนื้อชนเนื้อ ยิ่งเวลาใส่กางเกงรัดรูปจะอึดอัดช่วงต้นขามาก รวมไปถึงมีไขมันอยู่ช่วงขอบเสื้อใน หรือ ปีกหลัง สังเกตได้ง่ายมากครับ เวลาที่ใส่เสื้อชั้นในจะมีเนื้อปลิ้นออกมาตามขอบของเสื้อชั้นใน
นอกจากหน้าท้องแล้ว คุณโมเมยังมีไขมันรอบเอว หรือ Love Handles ซึ่งเป็นไขมันใต้ชั้นผิวหนังที่สะสมอยู่จำนวนมาก ทำให้ช่วงเอวด้านข้างดูหนาและไม่เห็นส่วนเว้าโค้ง ซึ่งห่วงยางรอบเอวก็เกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เผลอตามใจปากอยู่บ่อย ๆ ทั้งพวกขนมหวาน ชานม ของทอดมัน ๆ รวมไปถึงการขาดการออกกำลังกาย นานวันเข้าก็กลายเป็นไขมันสะสมที่กำจัดได้ยากหรือที่เรียกว่า “ไขมันดื้อ” นั่นเองครับ
คุณโมเม กับ ความคาดหวังหลังดูดไขมัน
- อยากกลับมาใส่เสื้อผ้าตัวเล็ก ๆ ได้อีกครั้ง
- อยากกำจัดพุงปลิ้น ขาเบียด ให้หน้าท้องแบน ขาเล็กเรียวขึ้น
- อยากมีรูปร่างที่สมส่วนกับขนาดตัว เพราะเป็นคนตัวเล็กมีพุง
- อยากได้หน้าท้องที่ลีน มีเอวเอส ดูแล้วมีเอวคอด
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ปีกหลัง ปีกนางฟ้า นมน้อย คืออะไร อ่านเพิ่มเติมได้ที่ (สัด)ส่วนเกินที่คุณไม่อยากรู้จัก
- ไขมันใต้ชั้นผิวหนังคืออะไร ดูดไขมันออกได้ไหม อ่านเพิมเติมได้ที่ วิธีลดหน้าท้องใหญ่ เพราะไขมันใต้ชั้นผิวหนัง
วิเคราะห์สัดส่วนอย่างละเอียด
มาถึงวันที่คุณโมเมเข้ามาปรึกษาและวิเคราะห์สัดส่วนกันอย่างละเอียดก็พบว่า คุณโมเมมีสัดส่วนช่วงล่างตั้งแต่เอวลงไปไม่สมส่วนกับลำตัวด้านบน มีไขมันสะสมอยู่บริเวณหน้าท้องส่วนบนและส่วนล่าง เมื่อมองด้านข้างยังเห็นว่ามีพุงปลิ้น พุงป่องช่วงล่าง ซึ่งสามารถพบได้บ่อยในคนผอมแต่มีพุง ส่วนช่วงเอวก็มีไขมันสะสมอยู่ด้วยทำให้มองแล้วส่วนเว้าที่เอวหายไปจนกลายเป็นคนเอวหนา นอกจากนั้นยังมีไขมันปีกหลัง (เนื้อปลิ้นขอบเสื้อใน) รวมไปถึงบริเวณต้นขาด้านในที่เป็นขาเบียด ยิ่งยืนให้เท้าชิดกันเราจะรู้สึกได้ว่าเนื้อของขาข้างในมันสัมผัสกันทั้ง 2 ข้าง
หมอจึงวางแผนการรักษาด้วยการดูดไขมันหน้าท้องช่วงบนและล่าง เพื่อทำให้หน้าท้องแบนราบขึ้น และจากที่คุยกันคุณโมเมอยากทำให้หน้าท้องลีนมากยิ่งขึ้น หมอจึงแนะนำให้ทำควบคู่กับดูดไขมัน Sexy Line เพื่อทำให้เห็นกล้ามหน้าท้องหน่อย ๆ เหมือนคนที่ออกกำลังกายมาอย่างหนักเป็นปี ๆ แต่จริง ๆ แล้วแค่ดูดไขมันไม่กี่ชั่วโมงก็ปั้นกล้ามหน้าท้องได้แล้วครับ
เมื่อตรวจเช็คสภาพผิวหนังก็ยังพบอีกว่า ชั้นผิวหนังขาดความยืดหยุ่นและไม่ค่อยกระชับ หมอเลยแนะนำให้ทำ J Plasma เพื่อกระชับผิวหย่อนคล้อยไปพร้อม ๆ กันเลยครับ เพราะว่าเวลาที่หมอดูดไขมันออกไปจะเกิดช่องว่างระหว่างชั้นผิวหนัง (ด้านบน) และชั้นกล้ามเนื้อ (ด้านล่าง) ก็จะยิ่งทำให้ผิวที่ขาดความยืดหยุ่นอยู่แล้ว ยิ่งหย่อนยานได้มากขึ้นครับ
แนวทางการรักษา
- ดูดไขมันด้วยเครื่อง Ultra Z
- ดูดไขมันหน้าท้องด้านบนและล่าง แก้ปัญหาพุงปลิ้น
- ดูดไขมัน Sexy Line ปั้นร่อง 11 กล้ามหน้าท้องชัดขึ้น
- ดูดไขมันเอวเอส+ปีกหลัง เพื่อให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งมากขึ้น
- ดูดไขมันต้นขาด้านใน แก้ปัญหาขาเบียด
- กระชับผิวให้เฟิร์ม ด้วย J Plasma
ขั้นตอนดูดไขมันกำจัดพุงปลิ้น ขาเบียด กระชับผิวหย่อนคล้อย
สำหรับเคสของคุณโมเม คนไข้เลือกการดูดไขมันด้วยการดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ร่วมกับการใช้ยาชาเพื่อระงับความเจ็บระหว่างดูดไขมัน เนื่องจากเป็นการดูดไขมันหลายตำแหน่งที่อาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง ซึ่งการวางยาสลบยังทำให้คุณโมเมที่ไม่เคยดูดไขมันมาก่อนได้คลายกังวลไปได้มากเลยครับ โดยขั้นตอนในการดูดไขมันและกระชับสัดส่วนด้วย J Plasma มีรายละเอียด ดังนี้ครับ
- ก่อนเข้าห้องผ่าตัด แพทย์จะทำการวาดตำแหน่งเปิดแผลและตำแหน่งของไขมันที่จะดูดออกมา
- ทายาฆ่าเชื้อบริเวณที่จะทำการดูดไขมัน
- ทำการฉีดยาชาเฉพาะที่และดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
- เปิดแผลประมาณ 3-5 มม./จุด และดูดไขมันตามตำแหน่งต่าง ๆ ด้วยเครื่อง Ultra Z
- กระชับผิวหนังด้วยเครื่อง J Plasma โดยไม่ต้องเปิดแผลใหม่ ใช้แผลเดียวกันกับแผลดูดไขมัน
- ทำแนว Sexy Line เพื่อสร้างร่อง 11 ให้เห็นกล้ามหน้าท้องที่ชัดขึ้น
- จากนั้นเย็บแผล 1 เข็มต่อ 1 จุด เพื่อให้น้ำที่ค้างอยู่ในร่างกายระบายออก
- เจ้าหน้าที่สวมชุดกระชับหลังดูดไขมันให้ทันที
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ไขข้อสงสัย อาการดูดไขมันหายดีเมื่อไหร่? อ่านเพิ่มเติมได้ที่ หลังดูดไขมันบวมกี่วัน
เทคนิคเฉพาะของ Amara Clinic
การดูดไขมันถือว่าเป็นศาสตร์แห่งศิลปะครับ และต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์สูง มีประสบการณ์มาก และที่สำคัญคือ ต้องมีหัวศิลปะในการออกแบบรูปร่างให้สมส่วนและมีความพอดีแบบเคสต่อเคส ซึ่ง Amara Clinic เราได้นำเทคนิคพิเศษเฉพาะมาใช้กับคนไข้ทุกราย เพื่อสัดส่วนที่สวยงามลงตัวมากที่สุดครับ
- เทคนิค Sexy Line HiDef 4D 360° ปั้นร่อง 11 ลีนสุด ชัดสุด!
- เทคนิคดูดไขมันเอวเอส เหมารอบ 360° ทำเอวคอด
- เทคนิค Real Legs เหลาขาตะเกียบ เรียวเล็ก
ทำไมต้องเครื่องดูดไขมัน Ultra Z
ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีดูดไขมันหลากหลายแบบครับ แต่หลัก ๆ ที่ Amara Clinic เลือกใช้ก็จะมีทั้งเครื่องดูดไขมันพลังงานน้ำอย่างเครื่อง body jet ที่เหมาะกับการดูดไขมันเพื่อนำไขมันมาฉีดไขมันต่อครับ รวมไปถึงเครื่องดูดไขมันพลังงานความร้อน อย่างเครื่อง Vaser Smooth 2.2 รุ่นใหม่ล่าสุด และเครื่อง Ultra Z ที่หมอเลือกใช้ในเคสของคุณโมเม เพราะเหมาะกับการดูดไขมันสาวไซซ์เล็กและมีชั้นไขมันที่ไม่หนามากครับ
- เหมาะกับคนไข้ตัวเล็ก มีชั้นไขมันบาง
- สลายไขมันให้กลายเป็นน้ำ ทำให้ดูดไขมันออกมาได้ง่าย
- ดูดไขมันได้เยอะในครั้งเดียว
- สามารถใช้ดูดไขมันได้ทุกบริเวณในร่างกาย
- ไม่ทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว
- หลังทำสัดส่วนลดลงทันที
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ดูดไขมันพลังงานน้ำคืออะไร? ดียังไง? อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ดูดไขมัน body jet
- แนะนำเครื่องเวเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุด! เทคโนโลยีจากอเมริกา อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ดูดไขมัน Vaser Smooth 2.2
J Plasma คืออะไร
หลายคนยังไม่ค่อยรู้จักครับว่า J Plasma คืออะไร J Plasma ก็คือ เครื่องกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อยที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งผิวหย่อนคล้อยจากการลดน้ำหนัก, ผิวย้วยหลังคลอด หรือผิวไม่กระชับจากอายุที่มากขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยในระดับเริ่มต้นถึงปานกลาง (ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ) ซึ่งไม่มีการผ่าตัดเปิดแผลขนาดใหญ่ และสามารถทำร่วมกับการดูดไขมันเพื่อสลายไขมันและกระชับผิวหนังหลังดูดไขมันไปพร้อม ๆ กัน โดยทำในแผลเดียวกันกับแผลดูดไขมันได้เลย ไม่ต้องเปิดแผลใหม่ โดยคนไข้ที่ทำ Sexy Line หรือทำ Six Pack ถ้าได้ทำร่วมกับกระชับผิวด้วยเครื่อง J Plasma ก็จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้นครับ
เครื่องกระชับผิวหนัง J Plasma เป็นการผสาน 2 พลังงาน คือ พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (RF) ซึ่งจะปล่อยพลังงานความร้อนที่อุณภูมิ 85 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับอุณหภูมิที่ลงลึกเพื่อยกกระชับผิวหนังได้ทันทีอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยกระชับผิวเฉพาะจุดที่ต้องการ ทำให้เส้นใยที่ทำหน้าที่ติดผิวหดตัวลงทันที จากนั้นปล่อยพลังงานฮีเลียมพลาสมา (ก๊าซที่ให้ความเย็น) เพื่อให้ชั้นผิวเย็นลงทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวด้านบนไหม้ ไม่ทำร้ายเนื้อเยื่อและเส้นประสาทรอบข้าง ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผิวจะกระชับได้ทันทีหลังทำ 10 – 30% และจะยิ่งเห็นผลชัดเจนขึ้นที่สุด 3 – 6 เดือนครับ
รีวิวดูดไขมันฉบับสาวผอมแต่มีพุง
มาถึงรีวิวดูดไขมันเคสคุณโมเมกันบ้างครับ จากรูปรีวิวดูดไขมันจะเห็นได้ว่าหลังดูดไขมันหน้าท้องบนและล่าง ดูดไขมันเอวเอส ร่วมกับการทำ Sexy Line จะเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีเลยครับ สังเกตได้ว่าหน้าท้องของคุณโมเมแบนราบ และยังเห็นร่อง 11 ชัดเจนมาก หลังจากนั้นประมาณ 4 สัปดาห์ คุณโมเมได้เข้ามา Follow up เพื่อติดตามอาการหลังดูดไขมัน หน้าท้องและต้นขามีความลีนมากขึ้น ทั้งนี้ส่วนหนึ่งก็ต้องยกความดีให้กับคุณโมเมที่เข้ามานวด RF ด้วยเครื่อง Venus Legacy ที่คลินิกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสลายก้อนแข็งและกระชับผิวหลังทำ Sexy Line
หลังดูดไขมันกำจัดพุงปลิ้น ลดขาเบียด ประมาณ 3-4 เดือน คุณโมเมเล่าให้หมอฟังว่า ตอนนี้สนุกกับการแต่งตัวมากขึ้น กล้าใส่เสื้อผ้าที่โชว์สัดส่วน รวมไปถึงกลายเป็นคนที่ชอบใส่กางเกงขาสั้นไปแล้ว จากสาวผอมแต่มีพุง นั่งแล้วพุงปลิ้น กลายเป็นสาวตัวเล็กหุ่นบางไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ทำความรู้จักเครื่องนวด RF ที่ดีที่สุดในโลก! อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Venus Legacy
ผลลัพธ์หลังดูดไขมันเสร็จทันที
รีวิวดูดไขมัน 4 สัปดาห์
รีวิวดูดไขมัน 3-4 เดือน
รีวิวดูดไขมัน 3-4 เดือน
สรุป เคสคุณโมเม
หมอขอสรุปเคสคุณโมเมกันอีกครั้งนะครับ สำหรับคุณโมเมมีการดูดไขมันทั้งหมด 3 ตำแหน่ง คือ ดูดไขมันหน้าท้องบน-ล่าง (ร่วมกับการทำ Sexy Line), ดูดไขมันเอวเอส+ปีกหลัง และดูดไขมันต้นขาด้านในครับ รวมไปถึงการกระชับผิวหลังดูดไขมันตามตำแหน่งต่าง ๆ ด้วย J Plasma โดยเป็นการดูดไขมันแบบยาชาเฉพาะที่ร่วมกับการวางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าครับ
ปริมาณไขมันที่ดูดออกมา
- ดูดไขมันหน้าท้องด้านบน + ด้านล่าง = 400 cc
- ดูดไขมันเอวเอส + ปีกหลัง ข้างซ้าย = 250 cc
- ดูดไขมันเอวเอส + ปีกหลัง ข้างขวา = 200 cc
- ดูดไขมันต้นขาด้านใน ข้างซ้าย = 300 cc
- ดูดไขมันต้นขาด้านใน ข้างขวา = 250 cc
รวมปริมาณไขมันที่ดูดออกมา = 1,400 cc
สรุปทิ้งท้าย
สำหรับใครที่สนใจอยากปรับเปลี่ยนสัดส่วนให้ดูดีขึ้น กำจัดพุงปลิ้น แก้ขาเบียด ทำเอวเอส หรือมีปัญหาสัดส่วนอื่น ๆ และยังไม่รู้ว่าจะดูดไขมันดีไหม หุ่นแบบเราต้องดูดไขมันตรงไหนดี สามารถส่งรูปสัดส่วนที่คิดว่าอยากจะดูดไขมันเข้ามาให้หมอวิเคราะห์เบื้องต้นก่อนได้ครับ ที่ Line : @amaraclinic
รวมรีวิว Sexy Lineปรึกษาดูดไขมัน ฟรี!
ลงทะเบียนปรึกษา คลิกที่นี่
ติดต่อสาขารัชโยธิน : 062-946-2397
ติดต่อสาขาราชพฤกษ์ : 062-556-6623
ติดต่อทาง LINE : @amaraclinic
กดที่ลิ้งค์นี้ได้เลย >> https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic
ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปร่าง
นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)
อาจารย์แพทย์ด้านการดูดไขมันพลังน้ำ
แพทย์ที่ทำเคส J Plasma เยอะที่สุดในเอเชีย